- 25 พ.ค. 2567
เมียช้ำสามีหลอกสูบเงินกว่า 25 ล้าน ก่อนไปสร้างครอบครัวกับสาวคนใหม่หน้าคุ้น คนที่ผัวเคยบอกว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน
"สาวถูกสามีหลอกหย่า" เมื่อไม่นานมานี้ นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ ได้พา น.ส.ฟ้า (นามสมมุติ) มาแจ้งความดำเนินคดีกับสามีตัวเอง เนื่องจากถูกสามีหลอกให้หย่าแล้วหลอกเงินไป 25 ล้านบาท โดยสามีอ้างเรื่องธุรกิจ สุดท้ายจับได้แอบไปจดทะเบียนสมรสกับแฟนใหม่ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากับแฟนใหม่มาหลายปีแล้ว
ทนายเจมส์ เล่าว่า ตนพาผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีกับสามีตัวเอง ซึ่งที่ยังเรียกว่าสามีอยู่เพราะยังไม่ได้เลิกกัน เนื่องจากทางสามีได้นำเอกสารปลอม ซึ่งถือว่าเป็นหนังสือรับรองบริษัทปลอม เอามาแสดงต่อผู้เสียหายซึ่งเป็นภรรยา
โดยบอกกับภรรยาตัวเองว่าเป็นหุ้นส่วนของบริษัท ซึ่งเป็นกิจการของเราเอง เป็นกิจการส่งทุเรียนไปขายเมืองนอก และได้บอกว่าต้องมีเงินค้ำประกันในบัญชี ธนาคารของห้างหุ้นส่วน 105 ล้านบาท แล้วบอกให้ภรรยาตัวเองโอนเงินมาในบัญชีห้างหุ้นส่วน เพื่อจะแช่ไว้ในบัญชีประมาณ 3 ปี
จากนั้นทางภรรยาตัวเองก็ทยอยโอนไปตลอด เฉพาะส่วนของภรรยา 2.5 ล้านบาท และยังมีน้องสาวกับน้องเขย โอนไปอีกประมาณ 11 ล้านบาท และยังมีพี่สาวอีก 11 ล้าน รวมประมาณ 25 ล้านบาท ในภายหลังครบกำหนด 3 ปี ทางภรรยาและญาติได้ไปทวงถามแต่ทางสามีตัวเองไม่สามารถคืนเงินให้กับทางภรรยาได้
และอ้างว่าเอกสารยังไม่ส่งกลับมา ทางภรรยาเลยสงสัยเลยไปคัดหนังสือรับรองบริษัท เพื่อที่จะดูว่าใครเป็นกรรมการบ้าง ซึ่งปรากฏว่าทางภรรยาตัวเองไม่ได้เป็นกรรมการหรือหุ้นส่วนใดๆกับบริษัทเลย แต่ทางผู้เสียหายก็ยังคิดดีว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก่อนหน้านี้
ซึ่งเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้มอบหมายให้คนไปคัดใบรับรองบริษัทมาให้อีกที ซึ่งผลปรากฏว่าผู้เสียหายไม่เคยเป็นหุ้นส่วนไม่เคยเป็นกรรมการบริษัทมาตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นข้อมูลที่เขาเอามาให้ภรรยาตัวเองดูถือว่าเป็นเอกสารปลอม และก็หลอกเงินทั้งหมด 3 คนรวมเป็นเงิน 25 ล้านบาท
อันนี้ยังไม่ได้รวมกรณีที่เอาทุเรียนจากผู้เสียหายไป อีกประมาณ 40 กว่าล้านบาท แต่ทางเรายังหาข้อเท็จจริงยังไม่จบ ก็เลยยังไม่แน่ใจว่าเป็นความผิดหรือจะตั้งข้อหาอย่างใด ซึ่งทั้งสองฝ่ายจดทะเบียนกันตั้งแต่ปี 2557
ทางสามีได้มาขอร้องให้ภรรยาหย่าให้หน่อย เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งทางผู้เสียหายก็ยอมจดทะเบียนหย่าให้ แต่ก็ยังใช้ชีวิตด้วยกันตลอดมา และยังมีลูกเพิ่มด้วยกันมาอีกคนนึง หลังจากจดทะเบียนหย่ากันแล้ว ซึ่งไม่อยากเป็นแค่ในนามเฉยๆ แต่ที่ผ่านมาก็ยังใช้ชีวิตคู่กันอยู่ ซึ่งเงินทั้งหมดเป็นเงินส่วนตัวของผู้เสียหายคนเดียว ซึ่งมาวันนี้มาแจ้งข้อหาฉ้อโกงและใช้เอกสารปลอม
ด้าน น.ส.ฟ้า (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนและสามีแต่งงานอยู่กินกันมาร่วม 17 ปี ซึ่งเพิ่งมารู้เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ว่าสามีมีโลกอีกใบหนึ่ง ซึ่งทางสามีแอบไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ประมาณช่วงปี 60 และก็เริ่มมาหลอกลวงเงินตน ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีการหยิบยืมเงินกันธรรมดา ซึ่งคิดว่าเป็นสามี และก็มีลูกด้วยกัน 2 คน คนหนึ่งอายุ 9 ขวบ อีกคนอายุ 14 ปี
กับสามีได้จดทะเบียนกันเมื่อปี 2557 และเมื่อปี 2558 สามีได้มาขอหย่าตอนนั้นตนเองกำลังท้อง 2 เดือน ซึ่งทางสามีได้ให้เหตุผลว่าตนจะไปทำธุรกิจ กลัวภรรยาตัวเองเดือดร้อน ก็เลยเชื่อแล้วตอนนั้นกำลังท้องอยู่ก็เลยไปหย่าให้ และเห็นเป็นเรื่องงาน ซึ่งตนก็ไม่รู้เลยว่าปีประมาณ 2559 ถึง 2560 สามีตัวเองได้ไปแต่งงานใหม่จดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนใหม่
จนพึ่งมารู้ไม่นานมานี้ ซึ่งพฤติกรรมของสามีก็ไม่ได้มีพิรุธอะไร ครึ่งชีวิตประจำวันที่ผ่านมาทางสามีก็จะไปไปมาๆ หาเรา เพราะทางสามีทำงานอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด ซึ่งเรื่องลูกตนจะเป็นคนดูแล ซึ่งทางสามีตัวเองจะกลับมาหาลูกประมาณอาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้ง
หลังๆ มาเริ่มจะ 2 อาทิตย์ครั้งหนึ่ง และยิ่งช่วงกรณีที่ยืมเงินไป ทั้งสามีจะไม่ค่อยกลับบ้านเลย ซึ่งทางสามีได้นำเอกสารมาหลอกลวงกับตนว่าต้องใช้เงินไปค้ำประกันในธนาคาร ทางเราก็เชื่อและยังชวนพี่น้องของเรามาร่วมด้วย
คราวนี้มาแจ้งความรวมเงินทั้งหมด 25.5 ล้านบาท เท่าที่รวบรวมได้ตอนนี้ ซึ่งทางเราได้ทยอยโอนไประยะเวลาประมาณ 3 - 4 ปี ซึ่งการยืมเงินทางสามีได้ยืมเงินตนมาตลอด ต้องการยืมเงินไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องคดีแต่เราก็สนับสนุนสามีตัวเอง ซึ่งทางเราเห็นเป็นเรื่องงานและอยากให้สามีตัวเองก้าวหน้า
จนตอนนี้ทางเราหมดเพราะทางสามีเอาไปหมด และสิ่งที่เสียใจที่สุดคือทางสามีตัวเองได้ไปสร้างครอบครัวใหม่ ซึ่งการใช้ชีวิตด้วยกันมาจะไปเที่ยวไหนจะมีผู้หญิงไปเที่ยวมาก่อนเสมอ เหมือนกับทางสามีตัวเองมีโลก 2 ใบ
ซึ่งทางฝ่ายผู้หญิงก็รู้ว่าทางสามีตัวเองมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว ซึ่งตนเคยจับพิรุธได้ครั้งนึงเพราะทางสามีได้มีรูปใน line เป็นสามีตัวเองกับผู้หญิงคนหนึ่งกล่าว แต่ทางสามีก็อ้างว่าถ่ายกันหลายคนแต่ตัดมาแค่นี้ และเอาลงหน้าปกโปรไฟล์ตัวเอง
อีกทั้งทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิงก็ยืนยันว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันไม่มีอะไร และตั้งแต่นั้นมาทางตนก็ไม่เคยสงสัยอะไรทางสามีอีกเลย ซึ่งทางเราคิดว่าทางฝ่ายชายมาอยู่กับเราเพราะเรื่องเงินหรือเปล่า ซึ่งตอนฝ่ายชายขอตนหย่าได้อ้างเรื่องงานเพราะกลัวตนจะเดือดร้อนไปด้วย กับธุรกิจที่กำลังทำอยู่ เพราะธุรกิจเราสองคนแยกกันกลัวภรรยาจะเดือดร้อนไปด้วย
ทั้งนี้วันที่ไปหย่าตนก็ได้ท้องประมาณ 2-3 เดือน เจ้าหน้าที่ยังถามเลยว่าจะหย่าเหรอกำลังท้องอยู่ แต่ทางสามีตัวเองก็ยังหาทางที่จะไปหย่าให้ได้ ซึ่งเราก็ไม่ได้เอะใจอะไร ซึ่งหย่าเสร็จทางสามีตนได้เอาใบหย่าไปด้วย ตนได้เข้ามาแจ้งความกับสามีตัวเอง
คดีปลอมแปลงเอกสาร และยังหลอกลวงพี่น้องของเราด้วย ซึ่งทางสามีได้เอาเงินที่ตนเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ได้รู้จักกัน หลอกเอาไปหมดเลย ซึ่งได้ติดเองความในคดี ใช้เอกสารปลอม ปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกง
อย่างไรก็ตาม ทางภรรยาได้พูดทั้งน้ำตาว่าถ้าเกิดไม่รักกันแล้วอยากสร้างครอบครัวใหม่ก็ไม่น่ามาหลอกกัน น่าจะไปสร้างกันเอาเอง ซึ่งตอนคบกันครั้งแรกใหม่ๆ สามีตนเองมีเงินติดตัวประมาณ 70,000 บาทและรถมือสองเก่าๆ 1 คัน