- 27 พ.ค. 2567
ยังไงกัน ตำรวจเจอข้อมูลเด็ดในมือถือ "เสี่ยต้น" ค้นหายาพิษหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว ล่าสุดสอบพยานแล้ว 15 ปาก
"เสี่ยต้นเสียชีวิต" ยังติดตามกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่น้องสาวของ เสี่ยต้น อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เข้าร้องเรียนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังสงสัยว่า เสี่ยต้น พี่ชายที่เสียชีวิต เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาจถูกฆาตกรรม โดยก่อนการเสียชีวิตปริศนา
โดย เสี่ยต้น เพิ่งผ่านเหตุการณ์ถูกคนร้ายประกบยิง พื้นที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เม.ย.แต่รอดมาได้ ก่อนไปเสียชีวิตอย่างปริศนาขณะนอนหลับที่บ้านพักใน จ.มหาสารคาม ขณะที่ พระพ่อเสี่ยต้น เปิดเผยว่า เมียเสี่ยต้นขอไม่ให้ส่งศพชันสูตรการตายกลัวเจอสารเร่งกล้ามเนื้อ
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีรายงานล่าสุดจาก พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตำรวจได้มีการเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในฐานะพยานไปแล้วจำนวน 15 ปาก โดยแบ่งเป็นผู้ใกล้ชิดจำนวน 8 ปาก และ พยานเกี่ยวข้องจำนวน 7 ปาก โดยการสอบปากคำทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
สำหรับคดีพยายามฆ่า ในพื้นที่ สน.วังทองหลางจากการไล่กล้องววจรปิดพบว่าผู้ลงมือก่อเหตุมีเพียง 2 คน ส่วนผู้ชี้เป้า และ ผู้จ้างวาน ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลว่าบุคคลใดมีการติดต่อแจ้งหรือไปพบเจอผู้ก่อเหตุในเวลาก่อน หรือ หลังเกิดเหตุหรือไม่ เพื่อหาพยานหลักฐานรวบรวมในการออกหมายจับต่อไป
สำหรับการติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ขณะนี้ตำรวจได้มีการไล่กล้องวงจรปิดทั้งก่อนเกิดเหตุจนกระทั่งเส้นทางหลบหนีจนถึงที่สุดเพื่อนำตัวคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดี
รายงานข่าวแจ้งว่ากรณีมีการนำเสนอข่าวเรื่องยาไซยาไนด์นั้น ทางตำรวจทราบข้อมูลแล้วอยู่ในระหว่างขยายผล ซึ่งพบว่าโทรศัพท์ของผู้ตายช่วงวันที่ 18 เมษายน มีการค้นหายาไซยาไนด์ซึ่งเป็นการค้นหาภายหลังจากผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบว่าภายหลังจากผู้ตายเสียชีวิตโทรศัพท์ของผู้ตายใครเป็นผู้ถือครอง และ มูลเหตุจูงใจในการค้นหายาไซด์ยาไนด์คืออะไรซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป