ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาทย่านนางเลิ้ง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังจับกุมมาสอบปากคำ

กระจ่างแล้วสำหรับคดี "ทอง 49 บาทหล่นหาย" ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท ย่านนางเลิ้ง ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ อ้างนำทองไปขายเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นทองจริงหรือไม่ ส่วนที่เหลือตำรวจยืดคืนเป็นของกลางแล้ว

 


โดย ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางยี่ขัน ได้คุมตัวคนขับรถแท็กซี่สีส้มแดง ที่ปรากฏภาพกล้องวงจรปิด ว่าได้มีการลงไปหยิบกระเป๋าที่ตกอยู่กลางถนนบรมราชชนนีขาออก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม มาสอบปากคำ หลังจากที่ในช่วงเช้าสามารถติดตามจับกุมตัวได้ย่านนางเลิ้ง ขณะกำลังขับรถแท็กซี่รับส่งผู้โดยสารอยู่

 

ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวคนขับแท็กซี่ไปตรวจค้นหาทองบริเวณบ้านพักย่านสาธุประดิษฐ์ ซึ่งรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวคนขับแท็กซี่ขึ้นมายังห้องสืบสวนที่อยู่บริเวณชั้นสามของโรงพัก สื่อมวลชนได้พยามสอบถามกับคนขับแท็กซี่รายดังกล่าวว่าทองยังอยู่หรือเปล่า คนขับแท็กซี่ไม่ได้ตอบคำถามได้แต่พยักหน้า

 


นอกจากนี้สื่อมวลชนยังได้สอบถามอีกว่า วันที่เก็บกระเป๋าไปรู้มั้ยว่าเป็นทอง , ทำไมไม่นำทองมาคืน , ได้คุยกับเจ้าของทองหรือยัง , กลัวได้รับผิดหรือไม่ ซึ่งคนขับแท็กซี่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามทุกคำถาม

ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท


พร้อมกันนี้ยังมีรายงานว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทองคำทั้งหมดได้แล้ว 47 บาท ส่วนอีก 2 บาทลุงคนขับแท็กซี่ได้นำไปขายให้กับร้านทองแห่งหนึ่ง และได้เงินมาจำนวน 60,000 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวยังไม่ได้นำมาใช้จ่าย ซึ่งก็ได้อายัดเงินจำนวนดังกล่าวไว้แล้ว ส่วนสาเหตุที่ลุงคนขับแท็กซี่อ้างว่านำทองไปขายเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าทองที่เก็บได้เป็นของจริงหรือไม่

 


ในเวลาต่อมาตำรวจได้เชิญตัวภรรยาขอบคนขับแท็กซี่มาให้ปากคำด้วย ซึ่งในรายละเอียดต่างๆ ตำรวจเตรียมที่จะแถลงต่อสื่อมวลชนให้ทราบอีกครั้ง

ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท

ทั้งนี้ทีมข่าวได้รับภาพวงจรปิดบริเวณหน้าร้านขายของแห่งหนึ่ง บริเวณปากซอยบรมราชนนี 7 ถนนบรมราชชนนี ฝั่งโลตัส ปิ่นเกล้า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งที่ป้าไพรินทร์อ้างทำทองตกครั้งแรก โดยจะเป็นพยานหลักฐานที่เชื่อว่า กระเป๋าที่คาดว่าบรรจุทองนั้นถูกเกี่ยวมากับรถคันหนึ่งจากฝั่งที่ป้าไพรินทร์อ้างว่าทำกระเป๋าหล่น ก่อนที่จะมีการยูเทิร์นรถมายังฝั่งตรงข้าม แล้วปรากฏภาพตามในวงจรปิดดังต่อไปนี้


ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวแรก
เวลา 8:17:35 จะเห็นว่า มีรถแท็กซี่คันสีแดงค่อยๆ ขับเข้ามาช้าๆ เพื่อมาจอดบริเวณด้านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว 

ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท

ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่สอง
เวลา 8:17:48 ก็จะเห็นว่า รถแท็กซี่คันสีแดงค่อย ๆ ถอยมาจอดบริเวณด้านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว 

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดตัวที่สาม
เวลา 8:18:35 ก็จะเห็นว่า ลุงขับรถแท็กซี่คันสีแดงได้เดินลงมาจากรถ โดยเดินอ้อมมาด้านหลังก่อนจะตรงดิ่งไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยว 

ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท

ภาพจากกล้องวงจรปิดวงจรปิดตัวที่สี่ ห้า และหก (ต่อเนื่อง)
เวลา 8:20:50 จะสังเกตเห็นรถยนต์ลักษณะคล้ายรถ jazz สีบรอนซ์เทาคัน 1 ขับผ่านมาบนถนนบรมราชชนนี ประมาณเลนที่ 3 ขับผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยภาพตัวที่ 5 จะเห็นว่า หลังจากที่รถขับผ่านกล้องตัวดังกล่าวไป เหมือนจะมีสิ่งของบางอย่างหลุดออกมาจากบริเวณท้ายรถ โดยภาพตัวที่ 6 นั้นจะเป็นภาพที่ซูมอย่างเห็นได้ชัดว่ามีของตกลงมาจากรถ jazz คันดังกล่าวลงบนถนน 

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดวงจรปิดตัวที่เจ็ด
เวลา 8:22:16 จะเห็นว่า ลุงขับรถแท็กซี่เหมือนจะเห็นว่ามีของตกอยู่กลางถนน จึงเดินจากบริเวณท้ายรถแล้วข้ามถนน เพื่อมุ่งหน้าไปเก็บของที่อยู่บริเวณกลางถนน โดยลุงอาศัยจังหวะที่รถโล่งวิ่งไปเพื่อหยิบของ แล้วเดินกลับมาที่ข้างถนน 

ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท

ภาพจากกล้องวงจรปิดวงจรปิดตัวที่แปด
เวลา 8:22:46 จะเห็นว่า ลุงขับแท็กซี่หยิบกระเป๋าที่เก็บได้กลางถนนมาวางไว้ข้างตน ก่อนจะนั่งลงกินก๋วยเตี๋ยว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นระยะเวลาประมาณ 5 นาที 

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดวงจรปิดตัวที่เก้า
เวลา 8:28:10 จะเห็นว่า ลุงขับแท็กซี่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว จึงหยิบชามไปเก็บไว้หลังรถเข็นร้าน แล้วก็เดินมาคว้ากระเป๋าออกไปจากร้านทันที 

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดวงจรปิดตัวที่ 10
เวลา 8:28:10 จะเห็นว่า ลุงขับแท็กซี่ได้ลุกเดินไปเก็บชามก๋วยเตี๋ยวแล้วเดินมาหยิบกระเป๋า ก่อนจะเดินอ้อมด้านหลังรถแล้วขึ้นรถแล้วจะขับออกไปทันที 

ไล่กล้องวงจรปิดทีละตัว นาทีลุงขับแท็กซี่ เก็บทอง 49 บาท