- 27 พ.ค. 2567
” ทนายอนันต์ชัย” ยื่นตรวจสอบกำกับดูแล อัยการฯ จ.สุราษฎร์ พบละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปม ละเว้น กรณี “ลัทธิเชื่อมจิต”
"ทนาย อนันต์ชัย" ยื่นตรวจสอบ อัยการฯ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ “ลัทธิเชื่อมจิต”
วันนี้ (27 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้เดินทางยื่นหนังสือต่อ นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โดยต้องการให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯ ใน จ.สุราษฎร์ธานี หลังพบว่ามีพฤติกรรมลักษณะละเว้นยกเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ไม่ให้ความช่วยเหลือ พัฒนาสังคม จ.สุราษฎร์ธานี ในการยื่นคำร้องต่อศาลกรณีลัทธิเชื่อมจิตในการเข้าไปคุ้มครองดูแลเด็ก
ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ในการเดินทางมาในวันนี้ตนไม่ได้ต้องการจะโจมตีใคร เพียงแต่ต้องการให้อัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและคอยดูแลให้คำปรึกษากับ พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะที่ผ่านมามีการยื่นคำร้องไว้กับศาล แต่มีการยกคำร้อง โดยที่เมื่อทวงถามถึงเหตุผล ได้รับคำตอบจาก พม. กลับมาว่า ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากฝ่ายอัยการ รวมถึงบอกด้วยว่าเหตุผลที่ยื่นมาไม่เข้าประเด็นในเรื่องของการคุ้มครองเด็ก ทำให้วันนี้ มายื่นขอให้อัยการสูงสุดช่วยเหลือ และสอบถามอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานีใน 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่เต็มที่หรือยัง และประเด็นที่ 2 นับตั้งแต่วันนี้อัยการฯ สุราษฎร์จะให้การช่วยเหลือ พม.ทั้งในการแนะนำและให้การช่วยเหลือดูแลด้านกฎหมายได้หรือไม่
ทั้งนี้ในวันนี้ตนมายื่นเรื่องทั้งหมด 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือ ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า มีการทำหน้าที่เต็มที่หรือไม่และประเด็นที่ 2 นับตั้งแต่วันนี้ขอให้อัยการฯ จังหวัดสุราษฎร์ให้การช่วยเหลือ พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งในการแนะนำและให้การช่วยเหลือดูแลด้านกฎหมาย
ทนายอนันต์ชัย ยังกล่าวอีกว่า มีอีกเรื่องที่ถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ตนได้มีการตรวจสอบและและพบว่า “เด็ก 8 ขวบเชื่อมจิต” อาจเข้าข่ายเป็นกลุ่มเด็กพิเศษ ที่มีการป่วยเป็นเด็กออทิสติก ทั้งนี้ตนได้รับข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ทีมสหวิชาชีพลงพื้นที่พบครอบครัวลัทธิจิต พบว่าทางแม่ของเด็ก 8 ขวบ ได้มีการถามกับทีมวิชาชีพว่าลูกชาย เข้าข่ายเป็นเด็กออทิสติกหรือไม่ แต่ในวันนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ให้คำตอบเพราะอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ดังนั้นหากพบว่าน้องเข้าข่ายเด็กออทิสติก ก็จะถือเป็นกลุ่มผู้พิการ ดังนั้นก็จะมีในส่วยข้อกฎหมายคุ้มครองเพิ่มเติมอีก ดังนั้นหากเรื่องนี้ได้รับการตรวจพิสูจน์ ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่การนำเด็กพิเศษคนหนึ่งมาสอนธรรมะ ตนยืนยันว่าทุกเรื่องที่ตนได้พูดไปนั้น มีข้อมูลหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ขอให้สังคมรอการแถลงข่าวใหญ่ได้เลย