- 28 พ.ค. 2567
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2567 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ หรือ บิ๊กอุ้ม ประสานพาณิชย์ ตั้ง ผอ.ร.ร.เป็นเจ้าพนักงาน ตรวจจับบุหรี่ไฟฟ้า ปลื้มเจนแซดร่วมรณรงค์
เอาจริง! บิ๊กอุ้ม ประสาน พณ.จ่อตั้ง ผอ.โรงเรียน ปราบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ประธานในพิธีเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลการดำเนินงาน Gen Z 4 ภาค “ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า” ในโครงการป้องกันเยาวชนจากการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า (Gen Z Gen Storng : เลือกไม่สูบ) จัดโดยมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ที่โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสำคัญในการรณรงค์ป้องกัน เพื่อไม่ให้คนไทยทุกคนเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน จากการนำเสนอของตัวแทนเยาวชน Gen Z ในโครงการดังกล่าว ถือเป็นกิจกรรมที่ดีที่มาร่วมกันรณรงค์ป้องกันการไม่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มนักเรียนและในสถานศึกษา สอดคล้องกับนโยบายของตน “ทำดี ทำได้ ทำทันที” โดยฝากให้กลุ่ม Gen Z เป็นเหมือนฮีโร่ไปเชิญชวนเพื่อนๆช่วยกันรณรงค์ป้องกัน โดยเริ่มจากคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด และให้คนมองเห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่อันตรายและน่ารังเกียจ เป็นอันตรายต่อผู้สูบ ผู้ไม่ได้สูบ และผู้ที่อยู่แวดล้อม
โดยมี นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ผู้บริหาร ครู และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจาก 30 โรงเรียน ใน 14 จังหวัด เข้าร่วม พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมการรณรงค์ป้องกันต่างๆ เพื่อไม่ให้คนไทยทุกคนเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งนอกจากจะมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งเสพติดอื่นๆ ด้วย และจากการนำเสนอของตัวแทนเยาวชน Gen Z ในโครงการป้องกันเยาวชนจากการสูบบุหรี่ ถือเป็นกิจกรรมที่ดีที่มาร่วมกันรณรงค์ป้องกันการไม่สูบบุหรี่และบุหี่ไฟฟ้าในกลุ่มนักเรียนและในสถานศึกษา
พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวว่า สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรี “ทำดี ทำได้ ทำทันที” โดยได้ฝากให้กลุ่ม Gen Z เป็นเหมือนฮีโร่ไปเชิญชวนเพื่อนๆ ช่วยกันรณรงค์ป้องกันการไม่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยเริ่มจากคนในครอบครัว หรือคนใกล้ชิด และให้คนมองเห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่อันตรายและน่ารังเกียจ ควรต่อต้านการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในทุกที่ เพราะเป็นอันตรายต่อผู้สูบ ผู้ไม่ได้สูบ และผู้อยู่แวดล้อม
พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวต่อว่า ในส่วนของ ศธ.ให้ความสำคัญกับการป้องกัน โดยการรณรงค์ให้ความรู้ถึงโทษ การผลิตสื่อเผยแพร่สร้างการรับรู้อย่างกว้างขวาง รวมถึงการป้องปราม ซึ่งขณะนี้ได้มีหนังสือประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้พิจารณาแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ให้เป็นเจ้าพนักงานดูแลเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่ระบุว่า เจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ได้รับแต่งตั้งจะมีอำนาจตรวจยึดและขยายผลการดำเนินการ ดังนั้น หากมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ ก็จะทำให้การบริหารจัดการเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถตรวจยึดได้ทันที และสามารถขยายผลหาแหล่งที่มาได้
“ปัจจุบัน ศธ.มีสถานศึกษาในสังกัดกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถไปดำเนินการได้ครบทุกโรงเรียน แต่ผู้อำนวยการโรงเรียน หรือผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องนี้ จะสามารถตรวจค้นและยึดได้ทันที” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว