- 30 พ.ค. 2567
ชาวท่าข้าม รวมตัวร้องทุกข์ “กันจอมพลัง” ขอความช่วยเหลือ หลังมีชายวัย 41 ปี อ้างเป็นศิษย์เหล็กไหล มักจุดเทียนทำพิธีกลางถนน ยืนแก้ผ้าอาบน้ำข้างในถนน
เปิดประวัติ ศิษย์เหล็กไหล วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ชาวบ้านภายในซอยเรือนสุวีช์อร เขตท่าข้าม กรุงเทพฯ รวมตัวกันร้องเรียน กัน จอมพลัง และสื่อมวลชน เพื่อขอให้เข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากภายในซอย มีชายอายุ 41 ปี อ้างว่าเป็นศิษย์เหล็กไหล เวลากลางคืนมักจะเสียงดัง บางครั้งก็ร้องเพลงชาติตอนกลางคืน เสียงดังลั่นซอย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตกใจ หลังจากร้องเพลงชาติเสร็จก็จะมีการทำพิธีบูชาเหล็กไหล นำเทียนมาปักรอบตัว และยังอาบน้ำข้างถนน บางวันก็ใส่เพียงแค่กางเกงในตัวเดียวทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปให้ความช่วยเหลือ
ตัวแทนชาวบ้าน ยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นคนที่พูดจาไพเราะ ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายคนในซอย แต่ชาวบ้านอยากให้นำตัวไปรักษาอาการ เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต กลัวว่าชายคนดังกล่าว อาการจะหนักขึ้นหากยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามานำตัวไปรักษาให้ถูกวิธี และชาวบ้านก็รู้ว่าชายคนดังกล่าวเสพยาเสพติดด้วยจึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับคนในพื้นที่และคนในครอบครัวของชายคนดังกล่าวด้วย
ชายคนดังกล่าวยอมรับว่า ได้ทำพิธีจุดเทียน 99 เล่มจริง เพื่อบูชาเหล็กไหล เพราะมีความเลื่อมใสศรัทธา อีกทั้งยังได้บูชาเกจิพระอาจารย์ชื่อดังหลายรูป เนื่องจากบูชาแล้วสบายใจ แคล้วคลาดปลอดภัย สาเหตุที่ศรัทธาในเหล็กไหลเพราะเคยเจอเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกยิง แต่สามารถรอดพ้นมาได้ พร้อมได้โชว์คาถาเรียกเหล็กไหลและโชว์ร้องเพลงชาติให้สื่อมวลชนฟัง เพราะทุกครั้งที่ร้องเพลงชาติเสร็จแล้วจะรู้สึกดี ส่วนที่ไม่รักษาอาการทางจิต ที่สถานบำบัดต่อ เนื่องจากมีแฟนต้องการที่จะอยู่กับแฟน แต่ปัจจุบันได้เลิกกับแฟนแล้ว
ด้านพ่อของชายคนดังกล่าว อายุ 72 ปี ยอมรับว่า ลูกชายติดยาเสพติดมาตั้งแต่อายุ 20 ปี และเป็นเด็กที่เกเร จึงทำให้ลูกชายมีภาวะป่วยทางจิต ที่ผ่านมาเคยนำลูกชายไปรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องสภาพจิตใจและบำบัดเรื่องยาเสพติด ซึ่งครอบครัวได้เสียเงินรักษา เดือนละ 15,000 บาท เป็นเวลากว่าหนึ่งปี ซึ่งเหมือนอาการจะดีขึ้น แต่เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็ไม่หาย และยังมีพฤติกรรมไปจุดไฟทำให้ไฟไหม้ห้องพักในแฟลต ทางครอบครัวต้องตามไปชดใช้ค่าเสียหาย หลังจากนั้นจึงให้ลูกชายอาศัยอยู่หน้าบ้าน เนื่องจากควบคุมพฤติกรรมลูกชายไม่ได้ และชอบขโมยของ จึงไม่ให้เงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะถ้าให้เงินลูกชายก็จะนำไปซื้อยาสูบ ทุกวันนี้ลูกชายจึงอาศัยอยู่หน้าบ้าน โดยจะมีเต็นท์ เสื้อผ้า อาบน้ำ อยู่หน้าบ้านและมีพฤติกรรมสวดมนต์ ตอนกลางคืน ส่วนปัจจุบันนี้ที่ลูกชายมีเงินไปซื้อยาสูบ ก็ไม่ทราบว่าลูกชายไปเอาเงินมาจากไหน โดยปกติแล้วลูกชายจะอาศัยข้าววัดกิน
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้ประสาน ไปยัง ตำรวจสน.ท่าข้าม และกระทรวงสาธารณสุข ให้นำชายคนดังกล่าวไปรักษาอาการหากมีอาการป่วยทางจิตเวช พร้อมทั้งประสานไปยังกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยและสวัสดิการด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดชายคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวไปรักษาอาการตามขั้นตอนแล้ว และจากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติด พบเพียงยาเส้น แป้งเย็น กระเป๋าเงิน ของใช้ส่วนตัวที่อยู่ภายในกระเป๋าสะพายข้างเท่านั้น