- 30 พ.ค. 2567
"บิ๊กต่าย" ยันไม่เพลี่ยงพล้ำเซ็นคำสั่ง "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ ยันยังเป็นรองผบ.ตร.เพียงหยุดทำหน้าที่ ทุกอย่างยึดตามกฎหมายเป็นตัวตั้ง
ปม บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อน ล่าสุด 30 พ.ค.67 "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการพิจารณากฤษฎีกาตีความเรื่องการออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า ในวาระนั้นตนไม่ได้นั่งอยู่ในที่ประชุม
ทั้งนี้มีการพิจารณาเรื่องคำร้อง แต่ตนต้องออกจากห้องประชุมเนื่องจากอาจจะมีการพิจารณาที่ไม่เป็นกลางได้ เพราะตนเป็นผู้ออกคำสั่งออกจากราชการ เมื่อเป็นผู้ออกคำสั่งหากชี้แจงอะไร ข้อกฎหมายเกรงว่าอาจจะเข้าข้างตัวเอง เพราะกฎหมายหมายถึงตนอาจเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสีย
ส่วนคำสั่งออกจากราชการที่ผ่านมา ตนไม่ได้พูดว่ามั่นใจในตัวคำสั่ง เพราะเป็นการพิจารณาตามที่ฝ่ายอำนวยการได้เสนอตามข้อเท็จจริงข้อกฎหมายยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติปี 2565
จากนี้จึงเป็นเรื่องระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กับ สำนักนายกรัฐมนตรี ในทางกฎหมายเป็นกระบวนการขั้นตอนที่ดำเนินการตามมาตรา 140 ส่วนจะสมบูรณ์หรือไม่ตนเองไม่สามารถให้คำนิยามคำนี้ได้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตามมาตรา120 ต้องรอผลการพิจารณาจากคณะกรรมการชุดสืบสวน และจาก คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) รวมทั้ง จะมีการพิจารณาตามมาตรา131 เรื่องบทลงโทษ ยืนยันว่ามีการพิจารณาตามขั้นตอนที่จะนำไปสู่มาตรา 140 คือการทูลเกล้าฯ
เมื่อถามว่าการที่กฤษฎีกาฯ ตีความประเด็นออกจากราชการกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการเพลี่ยงพล้ำหรือไม่ รักษาการฯผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่เพลี่ยงพล้ำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามมาตรา 140
ส่วนสถานะของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายการที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน กระบวนการต่างๆพิจารณาตามกฎหมาย ถ้าถามว่าสถานะเป็นอย่างไร คำตอบคืออยู่ในกระบวนการปฏิบัติที่ดำเนินการอยู่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่หยุดปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากคำสั่งออกจากราชการ
เมื่อถามย้ำว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารถเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ท่านน่าจะพิจารณาเองได้
รักษาการฯ ผบ.ตร. กล่าวยืนยันในตอนท้ายว่าไม่หนักใจในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะการลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ให้จนถึงที่สุดให้ดี จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในอนาคตต่อไป