- 03 มิ.ย. 2567
เปิดภาพวันวาน เสี่ยต้น - เจ๊มด เมื่อครั้งยังรักกัน ลำบากมาด้วยกัน ให้กินน้ำต้มผักยังหวาน กินเกลือก็อร่อย ก่อนถึงวันหมดรักจนต้องจ้างวานสังหารสามี
คืบหน้าเจ๊มดจ้างวานสังหารเสี่ยต้นสามี โดย ตำรวจได้แถลงข่าวคดีเสี่ยต้น ภายหลังจากสอบปากคำ น.ส.วรรณิภา หรือเจ๊มด อายุ 37 ปี ภรรยาเสี่ยต้น ทำหน้าที่เป็นผู้ใช้จ้างวานและชี้เป้า นายสาโรจน์ เสือสุวรรณ อายุ 25 ปี เป็นผู้ตระเตรียมการ จัดหาอาวุธและพาหนะ นายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ คนขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุ ขณะที่ นายณัฐพล ศิริโนนรัง อายุ 25 ปี มือปืนยังหลบหนี
พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในส่วนของนายวีรภัทร และนายสาโรจน์ ยอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างให้ไปซื้อปืนในราคา 12,000 บาท โดยนายสาโรจน์จัดหาให้ ส่วนนายวีรภัทร ยอมรับว่าตัวเองได้รู้จักกับมือปืนที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยรามอินทรา 62 และได้เจอกับนายณัฐพล หลังจากนั้นได้พูดคุยกัน ซึ่งนายณัฐพลอ้างว่าให้ไปช่วยติดตามเมีย เพราะว่าทะเลาะกัน ขอให้ช่วยขับรถให้ ถ้าเกิดเจอเมีย และพบว่าไปมีคนอื่น ขอให้ช่วยกันลงมือยิง นายวีรภัทร ก็ตกลงและได้รับค่าจ้าง 4,000 บาท เนื่องจากตอนนั้นไม่มีเงิน
หลังจากนั้นช่วงกลางคืน วันที่ 8 เม.ย. นายณัฐพลอ้างว่าให้ช่วยไปตามเมีย ก่อนจะนัดเจอกันที่โรงเหล้าแสงจันทร์ โดยนายณัฐพลเป็นคนพกอาวุธปืนมาด้วย ซึ่งช่วงแรกนายณัฐพลเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ แล้วนายวีรภัทรซ้อนท้าย จากนั้นส่งปืนมาให้นายวีรภัทรลงมือยิง แต่ตอนนั้นนายวีรภัทรตกใจ ไม่คิดว่าจะทำขนาดนี้ ประกอบกับกล้องวงจรปิดจับภาพได้ตอนที่หยุดรถ และนายวีรภัทรลงจากรถ แล้วอยากจะเอาปืนไปซุกไว้ที่กอหญ้า แต่ปรากฏว่า นายณัฐพลไม่ยอม บอกว่า “เดี๋ยวกูทำเอง” และให้นายวีรภัทรเป็นคนขับรถ
ทำให้การของนายวีรภัทรอ้างว่า ตัวเองตั้งใจขับรถมาทางด้านซ้ายของรถเสียต้น เพราะคิดว่าหากยิงจากวิถีนี้ น่าจะแค่เฉียดเป้าหมาย แต่หากขับเอียงไปทางด้านขวา จะสามารถยิงเป้าหมายเข้าถูกจุดแน่นอน จึงพยายามขับรถชะลอไม่ให้ขับตามรถเสี่ยต้นทัน เพราะรู้สึกว่างานนี้ไม่ธรรมดาแล้ว
จากการสอบปากคำผู้จ้างวาน ยังคงให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่ามีปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอไม่ให้การ และขอไปต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยยืนยันว่าหลักฐานทั้งหมดสามารถเชื่อมโยงไปถึงผู้จ้างวานฆ่า ทั้งพยาน บุคคล พยานแวดล้อม พยานวัตถุและพยานเอกสาร ที่เป็นหลักฐานการโอนเงินและหลักฐานการติดต่อสื่อสาร โดยในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เราพบว่าผู้จ้างวานฆ่าได้ติดต่อหามือปืนจากในโลกอินเตอร์เน็ตและเป็นคนติดต่อเอง พร้อมใช้เวลาในการนัดหมายลงมือประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งเรารวบรวมครบถ้วน ก่อนยื่นต่อศาลอาญาฯ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีได้
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยังให้ข้อมูลอีกว่า ภรรยาเสี่ยต้น มีการจ้างให้กลุ่มมือปืนยิงเสี่ยต้นหวังให้ตาย เพื่อประโยชน์เรื่องทรัพย์สินและเงินประกันชีวิต เชื่อว่าจุดประสงค์ในการก่อเหตุคือต้องการหวังเอาชีวิต แต่มือปืนทำไม่สำเร็จ ซึ่งทางมือปืนให้ข้อมูลว่า ภรรยาเสี่ยต้นมีการโอนเงิน และให้เป็นเงินสดประมาณ 300,000 กว่าบาท นอกจากนี้ยังพบว่า ภรรยาของเสี่ยต้น ไม่ได้รู้จักกับกลุ่มจ้างวานเป็นการส่วนตัว แต่มารู้จักเพราะต้องการให้ทำภารกิจนี้
ส่วนความรู้สึกของผู้ต้องหาทั้งหมดก็เศร้าและเครียดพอสมควร สำหรับความเชื่อมโยงไปยังคดีที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม เชื่อว่าคดีที่ สน.วังทองหลาง จะเป็นสารตั้งต้น ซึ่งพยานหลักฐานจะเชื่อมโยงไปถึงหรือให้ทางตำรวจภูธรภาค 4 เป็นคนดำเนินการและขยายผลต่อ
ทั้งนี้ หลังจากนี้หากสอบปากคำแล้วพบว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ส่วนปืนของนายสาโรจน์ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนว่าไปซื้อมาจากที่ใด สำหรับประเด็นทางโทรศัพท์ที่ภรรยาหาข้อมูลซื้อไซยาไนด์ทางโลกออนไลน์นั้น ประเด็นนี้อยู่ในสำนวนแล้ว
โดยโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของ เจ๊มดและเสี่ยต้น เมื่อ 10 กว่าปีก่อนครั้งยังรักและร่วมสร้างครอบครัวมาด้วยกัน จะเห็นว่ามีแต่ความรักและความสุขครอบครัวกำลังสมบูรณ์ดูน่ารักและอบอุ่น มีลูกน้อยด้วยกันอีก 3 คน แต่ต้องมาสะดุดจ้างวานสังหารสามีด้วยชนวนเหตุที่ในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสืบตั้งประเด็นลงมือ 2 ข้อ คือขัดแย้งในครอบครัว หวังทรัพย์สิน และเรื่องชู้สาว