เปิดประวัติ หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง

"หลวงปู่ศิลา" พระเกจิดังภาคอีสาน ที่มีลูกศิษย์เล่าปาฏิหาริย์ มีญาณหยั่งรู้ และหลายคนไม่รู้ว่าท่านคือใคร วันนี้ทีมข่าวจะพาไปเปิดประวัติ หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง

หลวงปู่ศิลา หรือ พระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท) เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน พระเกจิดังภาคอีสาน ที่มีลูกศิษย์เล่าปาฏิหาริย์ มีญาณหยั่งรู้ และหลายคนไม่รู้ว่าท่านคือใคร วันนี้ทีมข่าวจะพาไปเปิดประวัติ หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง

 

ประวัติ หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง

หลวงปู่ศิลา ท่านคือใคร นับว่าเป็นบุญอย่างยิ่งที่ในยุคปัจจุบันนี้ ประเทศไทยยังมีพระเกจิดังที่มีชีวิตอยู่ให้เราเข้ากราบขอพร เพราะหลายคนมักจะคิดว่า หลวงปู่ศิลาท่านมรณะภาพไปแล้ว หลวงปู่ศิลาท่านอยู่ที่ วัดพระธาตุหมื่นหิน ตำบล คุ้มเก่า อำเภอ เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ประเทศไทยนี่เองค่ะ 

 

หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง

 

เมื่อวันศุกร์ ที่ 7 มิถุนายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรปุระ รองเลขาธิการสำนักพระราชวังเชิญเครื่องไทยธรรมและผ้าไตรพระราชทานถวายแด่ พระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท) ในโอกาสพิธีฉลองสมณศักดิ์ฉลองการตั้งวัดพระธาตุหมื่นหิน และ ฉลองตราตั้งวัดพระธาตุหมื่นหิน ณ วัดพระธาตุหมื่นหิน ต.กุดปลาค้าว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ในโอกาสพิธีฉลองสมณศักดิ์ฉลองการตั้งวัดพระธาตุหมื่นหินและฉลองตราตั้งวัดพระธาตุหมื่นหิน โดยมี ดร. สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นผู้อ่านสารสัญญาบัตรพระราชาคณะ โดยมีพระพรหมวชิรโสภณ (ศรีจันทร์ปุญฺญรโต) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ในการพิธีอ่านสารสัญญาบัตรพระราชาคณะชั้นราชให้ พระครูปลัดวชิรโสภณญาณ เป็น พระราชวัชรธรรมโสภณ(ศิลา สิริจนฺโท) สถิต ณ ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา จ.กาฬสินธุ์มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป คือพระครูปลัด1 พระครูสังฆรักษ์1 พระครูสมุห์1 พระครูใบฎีกา1 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน พุทธศักราช 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน โดยภายในพิธีมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก 

 

ประวัติ หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง

เปิดประวัติ หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง 

 

1. ครั้งหนึ่งเคยมี เฟซบุ๊กเพจ ศรัทธาบารมี หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ได้แชร์เรื่องราวตำนานปิดทองหลังพระ โดยระบุว่า "ครั้งหนึ่งมีผู้ศรัทธาท่านหนึ่ง เห็นภาพหลวงปู่ศิลาในเฟซบุ๊ก ไม่รู้จักหลวงปู่มาก่อน คิดว่าหลวงปู่ท่านละสังขารแล้ว แต่เกิดปิติศรัทธาจึงบนบานกับภาพในเฟซนั้นในสิ่งที่ตนทุกข์ใจอยู่ว่า หากสำเร็จจะไปปิดทองรูปเหมือนหลวงปู่ที่วัด ปรากฏว่า ทุกอย่างผ่านพ้นได้ตามคำบนประสงค์ จึงสุ่มเดามาที่วัด ซึ่งยุคนั้นที่วัดไม่มีรูปเหมือนหลวงปู่เลย มีแต่องค์จริงท่านนั่งอยู่บนกุฏิสองผัวเมียจึงขอโอกาสแก้บนโดยการปิดทอง หลวงปู่ก็เมตตา

ที่วัดพระธาตุหมื่นหินและธรรมอุทยาน จึงมีรูปหล่อหลวงปู่ไว้ให้ท่านปิดทอง เชิญทุกท่านกราบขอพร ปิดทองตามอัธยาศัย ขอบารมีหลวงปู่คุ้มครองให้ทุกท่านมีโชคลาภ อำนาจ วาสนา เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ประสบสิ่งอันพึงปรารถนาทุกทิพาราตรีกาลเทอญ"

 

2. "หลวงปู่ศิลา" รอดจากอุบัติเหตุกระบะหวิดชนเบนซ์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นข่าวโด่งดังมาก หลวงปู่ศิลา ท่านมีญาณหยั่งรู้อุบัติเหตุ ซึ่งกำลังเดินทางจากกาฬสินธุ์ ไปงานเจริญพระพุทธมนต์ ที่วัดพระธาตุหมื่นหิน บ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ. กาฬสินธุ์ จู่ๆ ได้มีรถกระบะเสียหลักขับข้ามเลนมาเกือบจะพุ่งชนรถของหลวงปู่ แต่ด้วยเหตุใดก็ไม่ทราบได้ รถกระบะคันดังกล่าวหยุดได้ก่อนที่จะถึงรถหลวงปู่เพียงแค่นิดเดียว ทำให้คนขับรถหักหลบได้ทัน ซึ่งคนขับรถและลูกศิษย์ต่างก็เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่ศิลา และแน่นอนว่าหลังจากมีการโพสต์คลิปดัง ก็มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์และมีการเเชร์เป็นจำนวนมาก

 

เปิดประวัติ หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง


สำหรับ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท แห่งสวนสงฆ์แกแปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีนามเดิมชื่อ ศิลา นิลจันทร์ เกิดเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ.2488 เป็นพระเกจิเรืองวิทยาคมอีกรูปหนึ่งแห่งภาคอีสาน มีวัตรปฏิบัติดี สมถะ เรียบง่าย เสมอต้นเสมอปลาย ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา ปัจจุบันสิริอายุ 79 ปี พรรษา 58 บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อครั้งอายุ 15 ปี ณ วัดธาตุประทับ และอุปสมบท สังกัด มหานิกาย เมื่อปี พ.ศ.2509 ณ วัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด โดยพระสิริวุฒิเมธี (เจ้าคณะ จ.ร้อยเอ็ดสมัยนั้น) หลวงปู่พระมหาศิลา ศึกษาปริยัติอย่างมุ่งมั่น จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 6 ประโยค รับพัดเปรียญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เมื่อปี พ.ศ.2515 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้รับหน้าที่เป็นพระอาจารย์สอนที่ รร.วัดนิคมคณาราม จ.ร้อยเอ็ดและรับหน้าที่เป็นพระที่สวดปาฏิโมกข์ในการลงอุโบสถของคณะสงฆ์ตลอดมา


เมื่อแตกฉานด้านปริยัติแล้ว หลวงปู่พระมหาศิลา ได้จาริกแสวงบุญ ปลีกวิเวกไปหลายจังหวัด เช่น จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ชัยภูมิได้เดินธุดงค์ ป่า ณ ภูเขา อ.สังคม จ.หนองคาย สู่ ภูเขาควาย สปป.ลาว ในปี พ.ศ.2517 เดินทางไปกับหลวงพ่อบ้านชาติ วัดบ้านชาติ จ.ร้อยเอ็ด (มรณภาพแล้ว) ได้พบกับครูบาอาจารย์มากมาย เช่น หลวงปู่ทองมา ถาวโร , หลวงปู่มหาบุญมี สิรินธโร, หลวงปู่ลี กุสลธโร และเป็นสหธรรมมิกกับครูบาอาจารย์หลายรูป เช่น หลวงพ่อสมาน ธัมรักขิตโต , หลวงปู่หนู อินทวัณโณ, หลวงปู่สมสิทธิ์ รักขิสีโล, หลวงปู่ล้อม สีลสังวโร


หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ร่ำเรียนวิปัสนาและเรียนอักษรธรรมลาว และอ่านหนังสือจากใบลานอีสานได้อย่างแตกฉาน และได้ศึกษาคัมภีร์ใบลานสายสมเด็จลุนจาก สปป.ลาว หลายฉบับ ศึกษาจนแตกฉาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ปลีกวิเวกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าช้าร้างหลายแห่ง จนหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด ซึ่งเคารพนับถือท่านมาก ได้กราบนิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัด โดยหลวงปู่ประสงค์จะปลีกวิเวก ณ สวนสงฆ์บ้านแกเปะ เหล่าศิษยานุศิษย์จึงร่วมกันสร้างกุฏิถวาย หลวงปู่ได้จำพรรษาตลอดมาพระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ได้มีความเลื่อมใสในองค์หลวงปู่ ได้นิมนต์ท่านขึ้นไปร่วมงานพุทธาภิเษกพระกริ่งวัดสุทัศน์ฯ และหลายๆ วัดในภาคอีสานจะกราบอาราธนาหลวงปู่ไปร่วมปรกแทบทุกงาน เนื่องจากเหล่าศิษยานุศิษย์ได้ประจักษ์แก่สายตา เรื่องพุทธาคม วัตรปฎิบัติ ความเมตตา ความสันโดษ และเรื่องญาณหยั่งรู้ที่ท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างน่าอัศจรรย์
 

เปิดประวัติ หลวงปู่ศิลา ทำไมถึงได้เป็นพระเกจิดัง

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :ศรัทธาบารมี หลวงปู่ศิลา สิริจันโท,ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ,สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์

ภาพ :หลวงปู่ศิลา สิริจันโท