- 11 มิ.ย. 2567
รถจมน้ำทำยังไง วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ เมื่ออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน หลายคนไม่รู้มาก่อน เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก
วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน รถจมน้ำทำยังไง วันนี้มีคำตอบจากเพจ Michelin ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันบนท้องถนน แน่นอนว่าเป็นเรื่องสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าจะกับใคร ที่ไหน ก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ วันนี้พี่บิ๊บเลยมีความรู้ในการรับมือเมื่อรถจมน้ำมาแนะนำกันครับ เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถเอาตัวรอดให้ปลอดภัยได้ครับ
1. ตั้งสติให้มั่น เมื่อรถจมน้ำ ด้านหน้ารถจะจมก่อนด้านหลัง ซึ่งมีเวลาเพียงสั้นๆ 1 - 2 นาที ก่อนที่รถจะจมลงไปทั้งคัน จึงต้องตั้งสติให้ดีๆ
2. ปลดเข็มขัดนิรภัย แต่ถ้าหากแน่นจนปลดไม่ออก ให้หาของมีคมมาตัด
3. ปลดล็อคประตู ฝั่งที่ใกล้ตัวเองที่สุดก่อน หากเป็นคนขับให้กดปลดล็อคประตูทุกบาน
หลังจากนั้นมีวิธีเอาตัวรอดออกจากรถจมน้ำได้ 2 ทาง
- การออกทางหน้าต่าง
1. ลดกระจกลงจนสุด ให้น้ำเข้ามาในรถ จากนั้นลอยตัวออกไปทางหน้าต่าง
2. ให้หาของแข็งมาทุบกระจกรถ เช่น เหล็กขันน็อตที่มีอยู่ในถุงอะไหล่ ค้อนทุบกระจก หากไม่มีของแข็ง ให้ถอดที่พิงศีรษะ นำก้านที่เป็นเหล็กมาตอกลงไปที่ร่องกระจก แล้วออกแรงงัด กระจกก็จะแตกทั้งบาน ซึ่งควรตอกไปที่กระจกด้านข้างจะทำให้แตกง่ายกว่า เพราะกระจกด้านหน้าและด้านหลัง ถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงทำให้แตกยากกว่ากระจกด้านข้าง
3. ลอยตัวออกไปให้เร็วที่สุด
- การออกทางประตู
1. เมื่อรถอยู่ในน้ำจะมีแรงดันน้ำจากภายนอก ทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้ทันที ต้องให้น้ำเข้ามาเกือบเต็มรถ จะทำให้ความดันภายนอกและภายในรถใกล้เคียงกัน ทำให้เปิดประตูรถง่ายขึ้น
2. เมื่อเปิดประตูได้แล้ว ให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด แล้วรีบถีบตัวเองให้ลอยออกจากตัวรถ
การลอยตัวออกไปจากตัวรถ หากมันมืดมากจนไม่เห็นทิศทาง ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำนะครับ ควรปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือลองเป่าอากาศดูว่าฟองอากาศลอยขึ้นทางทิศใด จึงค่อยว่ายไปทางทิศของฟองอากาศลอยไป จะได้ไม่หลงทิศทางในน้ำครับ
ทางที่ดีเพื่อนๆ ควรจะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือยามฉุกเฉิน อย่างค้อนทุบกระจกที่มีตัวตัดสายเข็มขัดนิรภัย ติดรถไว้อยู่เสมอนะครับ และต้องเก็บเอาไว้ในจุดที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย แต่ไม่กระเด็นหายไปเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญที่สุดเลยคือ ขับขี่รถทุกครั้งจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา และนึกถึงความปลอดภัยก่อนเสมอเลยนะครับ พี่บิ๊บเป็นห่วง