เปิดภาพล่าสุด เรือน้ำมันเถื่อน 3ลำ มีแวะเทียบท่ากัมพูชา น้ำมันอยู่ไม่ครบ

กรณี เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ เครือข่ายของ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” หายไปจากท่าเรือสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ พร้อมน้ำมันของกลาง กว่า 3แสนลิตร ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจน้ำคุมเรือทั้ง 3 ลำ กลับเข้าน่านน้ำไทย พบน้ำมันเถื่อนในเรือของกลางหายไปบางส่วน ลูกเรืออยู่ไม่ครบ โดยในวันนี้ 17 มิ.ย.67 ตำรวจเตรียมแถลงข่าวเที่ยงวันนี้  ที่สถานีตำรวจน้ำ กองกำกับการ 7 จังหวัดสงขลา 

โดยพันตำรวจเอก ปรเมษฐ โพยนอก ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจน้ำสงขลาอยู่ระหว่างจัดเตรียมสถานที่ ตรวจความพร้อมในการรองรับเรือน้ำมันทั้ง 3 ลำ ว่าสามารถเทียบท่าตำรวจน้ำสงขลาได้หรือไม่ โดยตำรวจน้ำสงขลาได้รับการประสานงานให้เตรียมความพร้อมสถานที่สำหรับการแถลงข่าว และการนำเรือเทียบท่าเท่านั้น เบื้องต้นทราบว่ามีลูกเรืออยู่ในเรือน้ำมันทั้ง 3 ลำ แต่ไม่ทราบจำนวน ซึ่งคงต้องรอการแถลงรายละเอียดในวันนี้

ขณะที่ พลตำรวจตรี พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า ตำรวจน้ำได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน จนล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พบเรือน้ำมันเถื่อนของกลางทั้ง 3 ลำแล้ว ที่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจำเพาะสามประเทศ คือ ไทย กัมพูชา และเวียดนาม

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า น้ำมันบางส่วนหายไป อยู่ไม่เต็มจำนวน และลูกเรือจากจำนวน 16 คน ตอนนี้เหลือเพียง 8 คนเท่านั้น และที่บริเวณตัวเรือ พบว่ามีความพยายามที่จะอำพรางเปลี่ยนแปลงสีเรือของกลางด้วย จากการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่า เรือทั้ง 3 ลำ เข้าเทียบท่าที่ประเทศกัมพูชามาก่อนหน้านี้แล้ว และมีลูกเรือบางส่วนลงจากเรือไป พร้อมทั้งน้ำมันบางส่วนก็หายไปด้วย

อย่างไรก็ตาม จากการที่ทางการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ได้ออกลาดตระเวนทางทะเล ทำให้เรือทั้ง 3 ลำ หลบหนีออกจากท่าเรือในกัมพูชา แล้วออกสู่น่านน้ำเพื่อหลบหนี แต่จากการประสานกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถค้นพบเรือทั้ง 3 ลำ ที่บริเวณดังกล่าว และจะนำเข้าฝั่งภายในวันนี้ (17 มิ.ย.) โดย 1 ใน 3 ลำ ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง จึงต้องลากเข้าฝั่ง พร้อมกับอีก 2 ลำที่เหลือ ซึ่งขับได้ตามปกติ

ทั้งนี้ จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับรายละเอียดคดีนี้ในเวลา 12.00 น. วันนี้ (17 มิ.ย.67) ที่สถานีตำรวจน้ำ กองกำกับการ 7 จังหวัดสงขลา ซึ่ง "บิ๊กเต่า" พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะเดินทางมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง