ไฟไหม้ร้านค้า ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ รามคำแหง เผาวอด 30 ร้านค้า

ความคืบหน้าไฟไหม้ร้านค้า ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตเรลลิงก์ รามคำแหง โดย เมื่อเวลา 04.45 น. วันที่ 1 ก.ค. 2567 ร.ต.อ.ไชยา บัวมาศ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ตึกนาซ่าสตรีท ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ รามคำแหง ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อม  พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.หัวหมาก พร้อมประสานสถานีดับเพลิง และรถน้ำจำนวน 10 คัน

 

 

โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้นห่างจากบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าประมาณ 4 เมตร จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นล็อกแบ่งให้เช่า ประกอบด้วยร้านขายของประเภทกิ๊บช็อป ซุ้ม และร่ม พบเพลิงไหม้จากร้านขายเสื้อผ้า และลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังร้านทำเล็บ เนื่องจากร้านค้าส่วนมากเป็นร้านขายเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงทำการตัดกระแสไฟฟ้า ก่อนใช้น้ำฉีดสกัดประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบ พบมีร้านค้าเสียหายประมาณ 30 ร้าน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

 

จากการสอบสวน พนักงานสะดวกซื้อ ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ให้การว่าช่วงแระมาณ 04.30 น. ได้กลิ่นเหม็นไหม้เข้ามาภายในร้าน ตอนแรกคิดว่าไฟฟ้าช็อตภายในร้าน จึงเข้าไปดูหลังร้านก็ไม่เจอสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อออกไปดูหน้าร้านเห็นกลุ่มควันและแสงเพลิงจำนวนมาก ที่ชั้นล่างของอาคารดังกล่าว จึงเอาน้ำยาดับเพลิงมาช่วยฉีดสกัดแต่ก็ไม่สามารถดับได้เพราะมีเชื้อเพลิงส่วนมากเป็นเสื้อผ้า จึงรีบโทรแจ้งรถดับเพลิงมาช่วยดับดังกล่าว

 

ต่อมาเวลา 05.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาตรวรสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องมาสอบถามถึงเหตุการที่เกิดขึ้น และกำชับให้จ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้ที่จะใช้บริการของสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์รามคำแหง 

โดย นายชัชชาติ เผยว่าตนกำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่ที่เยาวราช พอทราบเรื่องจึงรีบมาตรวจสอบ เบื้องต้นมีร้านค่าเสียหายเฉพาะชั้น 1 และทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ประกาศปิดสถานีนี้ชั่วคราว โดยให้ผู้โดยสารไปใช้สถานีมักกะสันกับสถานีหัวหมากแทน แต่รถไฟฟ้ายังคงให้บริการตามปกติ 

ขอให้ผู้โดยสารติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการให้บริการอย่างใกล้ชิดด้วย จะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทาง โดยจะให้เจ้าหน้าที่ติดป้ายประกาศไว้ด้านล่างสถานีด้วย เบื้องต้นสถานีรถไฟฟ้าไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โดยในช่วงสายจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป