บุกทลาย 5 จุดกบดาน "โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง" ลวงสังหาร ต่าย คอลาย

สืบนครบาล เปิดปฏิบัติการ "โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง" บุกค้น 5 เป้าหมายสำคัญแหล่งกบดาน แก๊งรถจักรยานยนต์ ลวงสังหาร "ต่าย คอลาย" กลางแยกลาซาล ออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย เจอข้อหาหนัก

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 3 ก.ค.67 ตำรวจสืบนครบาล นำกำลังกว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ "โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง" ติดตามจับกุมตัวนายดนัย บางข่า หรือ ออม อายุ 26 ปี ได้ที่ห้องพักของคอนโดชื่อดังแห่งหนึ่ง ในซอยด่านสำโรง 11 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกันนี้ ได้นำหมายศาลบุกทลายเซฟเฮ้าส์ 5 จุด ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ พบปืน 38 กระบอก / กระสุนปืนกว่า 800 นัด / เงินสด 127,000 บาท / สมุดบัญชีธนาคาร 16 เล่ม / โฉนดที่ดิน 10 ฉบับ / คู่มือจดทะเบียนรถ 15 เล่ม / โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง / รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 6 คัน พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ / และยุทธภัณฑ์ผิดกฎหมายอีกหลายรายการ

 

บุกทลาย 5 จุดกบดาน โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง ลวงสังหาร ต่าย คอลาย

หลังจากกลุ่มคนร้าย 23 คน ก่อเหตุอุกอาจ ขับรถจักรยานยนต์ยั่วยุล่อลวง นายวรเชษฐ์ เขียวขำ หรือเฮิร์ท และนายเจษฎา วิริยะ หรือ ต่าย คอลาย ให้ขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ออกมาจากร้านอาหาร ก่อนจะมีอีกกลุ่มคอยดักใช้ปืนยิงเข้าใส่เป็นเหตุให้นายเจษฎา เสียชีวิตที่แยกลาซาล-แบริ่ง (ตัดใหม่) แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา

 

บุกทลาย 5 จุดกบดาน โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง ลวงสังหาร ต่าย คอลาย

 

หลังก่อเหตุสุดอุกอาจท้าทายกฎหมาย ทำให้พลตรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการทันทีให้พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบนครบาล นำทีมสืบนครบาลลงพื้นที่ติดตามกลุ่มคนร้าย "เต็มสูบ" จนสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มหัวโจกในพื้นที่ละแวกซอยวัดด่านสำโรง ซึ่งเคยร่วมกันก่อคดีในพื้นที่สมุทรปราการ ไม่ต่ำกว่า 10 คดี ในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา แต่คราวนี้ย่างกรายมาก่อเหตุเลยเขตแดนสมุทรปราการเพียง 100 เมตร จึงเป็นอำนาจการสืบสวนของนครบาล

 

บุกทลาย 5 จุดกบดาน โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง ลวงสังหาร ต่าย คอลาย
 

ซึ่งการสืบสวนนั้น "รองนพศิลป์" เปิดเผยว่า การตรวจสอบกล้องวงจรปิดละแวกที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันไปก่อเหตุ มีมากถึง 23 คน และยังพบเบาะแสว่ากลุ่มคนร้ายนี้เป็น "หัวเชื้อ" ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุของกลุ่มนักศึกษาช่างกลชื่อดังใจกลางกรุงในอีกหลายคดี และที่เห็นว่าต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เกิดจากเหตุการณ์ระหว่างที่ "ผู้การจ๋อ" นำกำลังชุดสืบนครบาลลงพื้นไล่กล้องวงจรปิดจนถึงบริเวณภายในซอยแบริ่ง 48/9 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พบชาวบ้านในพื้นที่ต่างมีอาการหวาดผวาอย่างผิดปกติ ไม่กล้าให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพราะถูกทนายของกลุ่มคนร้ายมาข่มขู่ว่า "หากให้ตำรวจดูกล้องวงจรปิด จะยกพวกมาเผาบ้าน"และชาวบ้านยังแจ้งอีกว่า เหตุที่กลุ่มคนร้ายก่อเหตุซ้ำๆ ซากๆ แล้วยังลอยหน้าลอยตาได้นั้น เพราะมีทนายแสบเป็นผู้คอยตามล้างตามเช็ดเรื่องคดีให้กับกลุ่มคนร้าย ทำกลุ่มคนร้ายย่ามใจกร่างได้สุดๆ เช่นนี้

 

บุกทลาย 5 จุดกบดาน โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง ลวงสังหาร ต่าย คอลาย

 

เมื่อชุดสืบสวนรับทราบเรื่องราวจากชาวบ้านในพื้นที่ ก็ตระหนักได้ว่าครานี้ ไม่ใช่การสู้กับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องต่อสู้กับ "อิทธิพลเถื่อน" จนช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา นำกำลังชุดสืบนครบาล พยัคฆ์ร่ายเทพนคร กว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง” นำหมายค้นศาลบุกทลาย "เซฟเฮ้าส์" แหล่งกบดาน 5 จุด ก่อนจะรวบตัวการสำคัญได้ ตรวจยึดของกลางจำนวนดังกล่าว หลังการจับกุมล่าสุดขยายผลทราบว่า หัวหน้าของกลุ่มคนร้ายคือนายเพชร และนายไปป์ ซึ่งทั้งสองเป็นอดีตนักศึกษาช่างกลชื่อดัง ย่านบรรทัดทอง (เทคโนปทุมวัน) และยังพัวพัน "ธุรกิจสีเทา"

 

บุกทลาย 5 จุดกบดาน โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง ลวงสังหาร ต่าย คอลาย

เบื้องต้น ตำรวจดำเนินคดีกับ นายดนัย บางข่า หรือ ออม ในข้อหา "สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน / ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน / ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอันเป็นความผิดฐานซ่องโจร / มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต / และยิงปืนในที่ชุมชน" พร้อมทั้งเร่งล่าตัวนายนัฐวุฒิ อุดมโชค หรือ เล็ก ที่ถูกออกหมายจับศาลอาญาพระโขนง มาดำเนินคดีต่อไป