เรื่องใหญ่ อว. สั่งสอบซื้อขายวุฒิการศึกษา กล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง 

รมว.อว. สั่งแล้ว เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซื้อขายวุฒิการศึกษา หลังมีผู้เสียหายร้องทุกข์แจ้งความกล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง 


ปมซื้อขายวุฒิการศึกษา  ล่าสุด 3 ก.ค. 67 น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะโฆษกกระทรวง อว. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีประชาชนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่จังหวัดสกลนคร กล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง 

ได้หลอกเอาเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อไปซื้อปริญญาจากมหาวิทยาลัยเอกชน พร้อมปรากฏภาพใบเสร็จรับเงินจากมหาวิทยาลัยแห่งนั้น ถือเป็นการกระทบต่อความเชื่อมั่นในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องใหญ่ อว. สั่งสอบซื้อขายวุฒิการศึกษา กล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง 

เลขานุการ รมว.อว. จากเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้สั่งการให้ปลัดกระทรวง อว. เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานความคืบหน้าให้ทราบโดยเร็ว เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
 

เรื่องใหญ่ อว. สั่งสอบซื้อขายวุฒิการศึกษา กล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง 

ทั้งนี้ รมว.อว. ต้องการดูแลเรื่องธรรมาภิบาลและการบริหารของระบบอุดมศึกษาให้มีมาตรฐาน หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็พร้อมจะสั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป” น.ส.สุชาดา กล่าว

 


ด้าน ทีมกฎหมายรองเลขาธิการนายกฯ เข้าลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน หลังถูกนำภาพ ชื่อ ตำแหน่ง ไปแอบอ้างเรียกเงิน 6 หมื่นแลกตำแหน่งคณะทำงานฯ


จากกรณีที่มีเพจหนึ่งแอบอ้างว่า สามารถออกบัตรเป็นคณะทำงานของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ โดยมีค่าใช้จ่าย 60,000 บาท โดยนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า เรื่องนี้เกิดจากผู้ที่ตนเคยออกบัตรให้ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานกับพรรคเพื่อไทย มีการนำบัตรดังกล่าวไปอวดในกลุ่มไลน์ของมูลนิธิหนึ่ง และจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดจากการซื้อขายใบปริญญา จากมหาวิทยาลัยหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ในราคา 200,000 บาท

เรื่องใหญ่ อว. สั่งสอบซื้อขายวุฒิการศึกษา กล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง 

 

ซึ่งก็มีการถกเถียงเรื่องของราคาที่ไม่เท่ากัน จากนั้น ก็มีการพูดถึงอีก 1 ตำแหน่ง หากต้องการทำงานในทำเนียบรัฐบาล เป็นทีมงานของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนแรกตนไม่ติดใจ แต่ด้านล่างของแชตมีรูปของตนโดยตรง โดยจะเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในช่วงบ่ายของวัน 3 ก.ค. โดยส่วนตัวไม่ทราบว่าเขาเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่การแจ้งความก็เพื่อให้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และได้รับการตรวจสอบว่าใครถูกใครผิด นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดที่เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ที่สน.นางเลิ้ง นายชุมสาย ศรียาภัย ทีมกฎหมายผู้รับมอบอำนาจของนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับพ.ต.ต.ประธาน สีหาพล สว.(สอบสวน)สน.นางเลิ้งไว้เป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันว่านายสมคิดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลที่นำชื่อ ตำแหน่ง และภาพของนายสมคิดไปแอบอ้าง ในลักษณะเรียก รับเงินจากบุคคลอื่น จำนวน 60,000 บาท เพื่อแลกกับการได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงาน

เรื่องใหญ่ อว. สั่งสอบซื้อขายวุฒิการศึกษา กล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง 

ต่อมาในเวลา 15.00 น. ภายหลังการเข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันนานกว่า 2 ชั่วโมง นายชุมสาย เปิดเผยว่า วันนี้ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันว่ามีบุคคลหรือคณะบุคคลได้แอบอ้างชื่อ ตำแหน่ง และมีภาพของนายสมคิด ไปหาประโยชน์ในลักษณะซื้อขายตำแหน่งคณะทำงานของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีบุคคลนำไปแอบอ้างตามที่ปรากฎเป็นข่าว จึงได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นและยืนยันว่านายสมคิดไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลเหล่านี้และไม่มีนโยบายแบบนี้

เรื่องใหญ่ อว. สั่งสอบซื้อขายวุฒิการศึกษา กล่าวหาประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง 

ซึ่งนายสมคิดเป็นคนทำงานมีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นนักการเมืองน้ำดี มือสะอาด เป็นสส.จังหวัดอุบลราชธานี 3 สมัย เคยเป็นรองประธานวิปฝ่ายค้าน ครั้งนี้ได้รับความไว้วางใจให้มีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ซึ่งเรื่องนี้นายสมคิด รับไม่ได้และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง หากมีการเอาชื่อ ตำแหน่ง ไปหาประโยชน์ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจะดำเนินคดีจนถึงที่สุดหากนายสมคิดเป็นผู้เสียหาย