- 04 ก.ค. 2567
หนุ่มปลอมตัวเป็นไรเดอร์ เนียนมารับออเดอร์ หยิบอาหารไปแทน ร้านผู้เสียหายบอกเจอแบบนี้ 2 รอบแล้ว ยังไม่หยุดอีก
กรณี เตือนภัยร้านอาหารเดลิเวอรี่ มิจฉาชีพเนียนเป็นไรเดอร์ มารับออเดอร์ โดยสาวเจ้าของร้าน เผยว่า เตือนภัยร้านอาหารเดลิเวอรี่ ค่ะ ที่ร้านเป็นร้านขายอาหารเดลิเวอรี่ค่ะ พอดีเจอเหตุการณ์แบบนี้ 2 ครั้งแล้วกับคนๆนี้ แต่รอบแรกที่ร้านไม่ได้บันทึกวิดีโอไว้ แต่จำได้ว่าคนๆเดิมที่มาทำแบบนี้ 2 รอบแล้ว ภายในเวลาไม่ถึง 2 อาทิตย์
เขามาทำทีเหมือนไรเดอร์ทั่วไปที่มารับอาหารค่ะ แต่จริงๆแล้วเขาไม่ใช่ไรเดอร์ของออเดอร์นั้น แต่เหมือนแอบมาหยิบไปเฉยๆ ทำแบบนี้ 2 ครั้งแล้วสำหรับคนนี้ เลยอยากมาให้ทางเพจช่วยโพสเตือนภัยคนอื่นๆด้วยค่ะ เหตุเกิดแถวบริเวณซอยไผ่สิงห์โต แถวพระรามที่ 4 สุขุมวิท 16 ค่ะ
โดยร้านอาหารดังกล่าวโพสต์เตือนภัย เจอมิจฉาชีพเนียนเป็นไรเดอร์ แอบมาหยิบอาหารไปเฉย ๆ โดยทางร้านเป็นร้านขนมจีนเปิดมาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งตลอดทั้งวันจะมีไรเดอร์มารับอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก ทางร้านจึงใช้ระบบวางอาหารทิ้งไว้บนชั้นวางของให้ไรเดอร์เป็นผู้ดูหมายเลขและหยิบอาหารไปได้เลย เพื่อเป็นการลดระยะเวลาและความวุ่นวาย
ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ขโมยอาหารในลักษณะนี้มาก่อน จนกระทั่งเหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อประมาณวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ช่วงประมาณก่อนเที่ยง มีรถจักรยานยนต์คันนึงขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าร้าน โดยสวมเสื้อคลุม และมีกระเป๋าใส่อาหารอยู่ท้ายรถ แต่ไม่มีโลโก้บริษัทใด ก่อนที่ชายคนนั้นจะทำท่าทางดูโทรศัพท์ ราวกับตรวจสอบหมายเลขออเดอร์ ก่อนจะหยิบอาหารที่ทางร้านเตรียมไว้และขับรถจักรยานยนต์ออกไปทันที
ทางร้านมาทราบอีกครั้งว่าเจอมิจฉาชีพ เมื่อไรเดอร์ตัวจริงมาถึงและถามหาออเดอร์แต่กลับไม่พบอยู่บนชั้นวาง จึงย้อนกล้องวงจรปิดดู จึงเห็นพฤติกรรมทั้งหมด แต่ตัดสินใจไม่เอาความเพราะมองว่าเป็นการทำบุญทำทาน คงไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำสอง
แต่มิจฉาชีพกลับไม่คิดแบบนั้น วนกลับมาก่อเหตุอีกครั้งช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (3 กรกฎาคม 2567 ) แต่ครั้งนี้ไรเดอร์มีท่าทางระมัดระวังที่มากขึ้น วนรถดูลาดเลา 2-3 ครั้ง อาศัยจังหวะที่ร้านมีพนักงานอยู่เพียงคนเดียว เข้ามาหยิบออเดอร์ไปแบบเดิม
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สัมภาษณ์นายชนก แย้มศิลป์ เจ้าของร้านผู้เสียหาย กล่าวว่า ไม่คิดเลยว่าความเชื่อใจ และความต้องการอยากให้ไรเดอร์ทำงานได้อย่างสะดวกสบายจะทำให้เกิดเหตุเช่นนี้ จึงอยากมาโพสต์เตือนภัยให้เป็นอุทาหรณ์แก่ร้านอาหารหลาย ๆ ร้าน แม้กระทั่งร้านของตนเอง ที่ต้องระวังมิจฉาชีพที่ไม่ได้มีการสวมเสื้อของบริษัท ต้องมีการตรวจสอบหมายเลขออเดอร์ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ขึ้นอีก
ครั้งนี้ทางด้านเจ้าของร้านได้จะดำเนินการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ดำเนินการ จับคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป