- 17 ก.ค. 2567
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ยกตัวอย่าง คำพิพากษาคดีวางยาพิษ ในอดีต เผยให้เห็นชัด ๆ ใครที่ไว้ใจไม่ได้มากที่สุด
จากกรณีชาวเวียดนามถูกวางยาเสียชีวิต 6 รายในโรงแรมชื่อดังกลางกรุ่ง ล่าสุด ทนายเดชา ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า
ตัวอย่างคำพิพากษาคดีวางยาพิษ
ในอดีตที่ผ่านมา คนใกล้ตัว เพื่อนฝูง ไว้ใจไม่ได้ ฆ่ากันแบบเลือดเย็น
วางยาพิษชาวเวียดนาม 6 ราย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ตัวอย่างคำพิพากษาคดีวางยาพิษในอดีตที่ผ่านมา คนใกล้ตัว เพื่อนฝูง ไว้ใจไม่ได้ ฆ่ากันแบบเลือดเย็น
1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2542
จำเลยที่ 2 ได้นำยาฆ่าแมลงซึ่งมีสารพิษชนิดมีโธมิลผสมน้ำใส่ในขวดยาลดไข้พาราเซตามอล ชนิดน้ำแล้วใช้ให้จำเลยที่ 1 นำไปให้ผู้เสียหายดื่มเมื่อผู้เสียหายดื่มยาลดไข้ผสมสารพิษชนิดมีโธมิลแล้วก็เกิดอาเจียนและจำเลยที่ 1 ใช้นิ้วล้วงคอให้ผู้เสียหายอาเจียน จนกระทั่งส. นำน้ำมาให้ดื่ม ผู้เสียหายก็อาเจียนอีกและไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยมีสาเหตุโกรธเคืองผู้เสียหายมาก่อน ประกอบกับสารพิษมีโธมิลต้องกินเข้าไปในปริมาณมากพอ จึงจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนี้ย่อมฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยที่ 2 มีเพียงเจตนาทำร้ายผู้เสียหายให้เจ็บป่วยเท่านั้น และศาลย่อม ลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาได้ความนี้ได้
2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4050/2532
จำเลยนำสารพิษสตริกนิน ให้ผู้ตายเสพรับเข้าสู่ร่างกายจนผู้ตายถึงแก่ความตาย โดยได้คิดวางแผนเตรียมการมาก่อน ถือได้ว่าจำเลยฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยทยอยให้ผู้ตายเสพรับสารพิษสตริกนิน เข้าสู่ร่างกายเป็นระยะ ๆ สุดแล้วแต่สถานการณ์ และโอกาสจะอำนวย เป็นเหตุให้ผู้ตายต้องป่วยเจ็บได้รับความทุกข์ทรมานตลอดมา จนกระทั่งเมื่อมีเหตุที่สามารถหันเหความสนใจของผู้อื่นไปจากอาการของสารพิษสตริกนิน ได้แล้วก็ได้เพิ่มจำนวนสารพิษสตริกนิน ให้ผู้ตายเสพรับเข้าสู่ร่างกายจนถึงขีดที่ร่างกายไม่สามารถต้านทาน ได้และผู้ตายถึงแก่ความตายในที่สุด ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยประสงค์จะให้ผู้ตายได้รับความลำบากอย่างสาหัสก่อนตายด้วย อันมิใช่เป็นการฆ่าโดยวิธีธรรมดาทั่ว ๆ ไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย (วรรคสุดท้ายวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2532)
3.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2832/2538
จำเลยได้นำน้ำส้มผสมยาฆ่าแมลงไปถวายพระภิกษุผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแม้จำเลยจะมีเจตนาฆ่าเฉพาะผู้เสียหายแต่เมื่อผลแห่งการกระทำเกิดขึ้นแก่ผู้ตายโดยพลาดไปก็ต้องถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา60ด้วยจำเลยมีความผิดตามมาตรา289(4)ประกอบด้วยมาตรา80และมาตรา289(4)ประกอบด้วยมาตรา60