ผัวเมียไล่แทงกันบนรถเมล์ ทะเลาะกันดุเดือดผู้โดยสารคนอื่นๆผวาหนีไปอยู่หลังรถกลัวโดนลูกหลง สุดท้ายคนขับรถเป็นฮีโร่

 จากกรณีที่มีเพจโพสต์อยากดังเดี๋ยวจัดให้ โพสต์คลิปภาพวีดีโอ ขณะชายหญิงคู่หนึ่งกำลังใช้อาวุธมีดไล่แทงกันบนรถเมล์ และพนักงานบนรถเมล์ได้ควบคุมสถานการณ์ได้โดยที่ผู้โดยสารคนอื่นๆไม่ได้รับอันตรายใดๆ ซึ่งมีคนมาชื่นชมกับพนักงานบนรถเมล์ดังกล่าวกันเป็นจำนวนมากว่ามีสติและควบคุมสถานการณ์ได้ 

 

ผัวเมียไล่แทงกันบนรถเมล์ ผู้โดยสารผวาหนัก สุดท้ายคนขับเป็นฮีโร่

 

วันนี้ 29 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้าตลาดปัฐวิกรณ์ กรุงเทพมหานคร พบป้ายรถเมล์ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าตลาดปัฐวิกรณ์ โดยที่ไม่มีผู้คนแถวนั้นพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว 

 

ผัวเมียไล่แทงกันบนรถเมล์ ผู้โดยสารผวาหนัก สุดท้ายคนขับเป็นฮีโร่

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามยังอู่รถเมล์ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอู่รถเมล์สาย 36 ก อยู่ที่สวนสยาม ได้พบกับพนักงานที่อยู่บนรถเมล์คันที่เกิดเหตุ นางสุภัทรา อ่ำทอง พนักงานกระเป๋ารถเมล์ และนางสาว โสภา ลำพูพวง พนักงานขับรถเมล์ ได้เล่าว่า เห็นชายหญิงคู่นี้ทะเลาะกันก่อนขึ้นมาบนรถเมล์อยู่แล้ว จากนั้นฝ่ายหญิงก็ขึ้นมาบนรถเมล์ก่อน ส่วนฝ่ายชายก็เกาะประตูรถเมล์ไว้ เพราะฝ่ายหญิงพยายามไม่ให้ฝ่ายชายขึ้นมาบนรถเมล์ โดยที่ฝ่ายหญิงกระโดดถีบฝ่ายชาย แต่สุดท้ายผู้ชายก็ขึ้นมาบนรถเมล์ได้ และก็เหตุเกิดตามที่ในคลิปดังกล่าวที่ปรากฏ 

โดยฝ่ายหญิงใช้มีดเฉือนไปที่แขนเสื้อฝ่ายชาย แต่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ  ส่วนตัวไม่รู้ว่าฝ่ายชายและหญิงทะเลาะกันเรื่องอะไรมาเพราะเห็นผู้โดยสารเล่าว่าทะเลาะกันมาตั้งแต่บนถนนแล้ว แต่เท่าที่จับใจความได้ผู้ชายจับได้ว่าผู้หญิงว่าได้ไปมีอะไรกับชายอื่น และฝ่ายชายจะมาขอฝ่ายหญิงเลิก ส่วนตัวแล้วไม่เคยพบเห็นหญิงชายคู่นี้มาก่อน ทั้งสองคนไม่ได้จ่ายค่ารถเมล์ 
 

ผัวเมียไล่แทงกันบนรถเมล์ ผู้โดยสารผวาหนัก สุดท้ายคนขับเป็นฮีโร่

 

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเราเป็นพนักงานรถเมล์ คิดถึงผู้โดยสารที่อยู่บนรถเป็นสำคัญ กลัวผู้โดยสารที่ไม่ได้เกี่ยวข้องจะได้รับบาดเจ็บไปด้วย ตอนนั้นเราก็จอดรถและก็ควบคุมสถานการณ์เลย ซึ่งตอนนั้นมีผู้โดยสารคนอื่นๆอยู่ประมาณ 10 กว่าคนได้ และผู้โดยสารส่วนมากมีอาการตกใจกลัวและหนีไปอยู่ข้างหลังรถเมล์กันทั้งหมด 

 

ผัวเมียไล่แทงกันบนรถเมล์ ผู้โดยสารผวาหนัก สุดท้ายคนขับเป็นฮีโร่

 

ซึ่งตอนนั้นเราก็ลุกมาจากที่คนขับแล้วก็บอกดีๆกับชายหญิงผู้ก่อเหตุโดยดีว่าให้ลงไปทะเลาะกันข้างล่าง  ซึ่งจากการพูดดีแล้วชายหญิงทั้งคู่ก็ไม่ค่อยฟัง เราก็เลยเพิ่มเสียงให้ดุดันขึ้นมา แล้วก็ให้ลงไปเคลียร์กันข้างล่าง ครึ่งจังหวะที่ฝ่ายหญิงได้ลงไป เราก็ถือโอกาสรีบปิดประตูเพื่อแยกทั้งคู่ออกจากกัน จากนั้นก็ได้ขับรถออกไปส่งฝ่ายชายที่ป้ายถัดไป และให้ผู้ชายคนดังกล่าวลงจากรถ ส่วนตัวไม่เคยได้พบเจอประสบการณ์แบบนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ตอนที่เกิดเหตุในใจไม่ได้คิดกลัวอะไรแค่คิดว่าให้ทั้งสองคนลงไปจากรถเพื่อไม่ให้ผู้โดยสารคนอื่นๆได้รับอันตราย