สาวใหญ่นักธุรกิจ เศร้า โดนธนาคารหักเงินเก็บทั้งชีวิต 29 ล้าน

สาวใหญ่นักธุรกิจ เศร้า ร้องทุกข์ ธนาคารยึดเงินเก็บทั้งชีวิตในบัญชีกว่า 29 ล้านบาท อ้างเปลี่ยนจากคนค้ำเป็นผู้ให้ประกัน พร้อมจะยึดที่ดินอีกร้อยล้าน

6 ส.ค.67 นางกิรณา (สงวนนามสกุล) นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วัย 60 ปี พร้อมนายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติหรือ เต้ อาชีวะ และ น.ส.บรรณฑรวรรณ สมบัติธรรกุล ทนายความ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะทำงาน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ธนาคาร หักยึดเงินในบัญชีที่เป็นเงินเก็บทั้งชีวิตจากการทำธุรกิจ 29 ล้านบาท พร้อมจะยึดที่ดินย่านพระราม3 มูลค่ากว่าร้อยล้าน 

ด้านผู้เสียหายเล่าว่า ตนเองทำธุรกิจด้านอสังหาฯ เก็บเงินมาทั้งชีวิตหวังเป็นมรดกให้ลูกหลาน กับถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายเครือข่ายบริหารคุณภาพสินทรัพย์ ของธนาคาร หักเงินในบัญชีไป 29 ล้านบาท เนื่องจากตนเองได้ค้ำประกัน ให้กับบริษัทนำเข้าส่งออกและโลจิสติกส์

สาวใหญ่นักธุรกิจ เศร้า โดนธนาคารหักเงินเก็บทั้งชีวิต 29 ล้าน

เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำให้ตัวบริษัทขาดสภาพคล่อง แต่ก็ยังมีการติดต่อกับธนาคารอยู่ตลอด  ต่อมามีเจ้าหน้าที่ทางธนาคารติดต่อเพื่อจะปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งมีการดำเนินการขอแผนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และแจ้งชะลอการฟ้อง  ซึ้งบริษัททางลูกหนี้ที่ตนเองไปค้ำประกันก็ติดต่อกับทางธนาคารอยู่ตลอด 

สาวใหญ่นักธุรกิจ เศร้า โดนธนาคารหักเงินเก็บทั้งชีวิต 29 ล้าน

น.ส.บรรณฑรวรรณ สมบัติธรรกุล ทนายความ กล่าวว่า วันที่ 13 ก.พ.66 มีการส่งหนังสือแจ้งเตือนถึงผู้เสียหาย ว่าลูกหนี้ผิดชำระหนี้   แต่ต่อมาวันที่ 6 มี.ค.66 ทางธนาคารได้หักเงินฝากของผู้ค้ำประกันจากบัญชี โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เป็นจำนวนเงินถึง 29 กว่าล้านบาท ผู้เสียหายยังคิดว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาดูดเงิน ต่อมาถึงทราบว่าธนาคารส่งอีเมลล์ชี้แจงตามมาทีหลัง ซึ่งยังไม่ถึงกำหนด 60 วัน จากวันที่แจ้งหนังสือ

สาวใหญ่นักธุรกิจ เศร้า โดนธนาคารหักเงินเก็บทั้งชีวิต 29 ล้าน

จากนั้นมีการส่งหนังสือแก้สัญญา ให้ “ผู้เสียหายที่เป็นผู้ค้ำประกัน  แก้ไข เป็น ผู้ให้ประกัน” เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฏหมายค้ำประกัน ให้ผู้เสียหายรับผิดชอบเป็นหนี้ร่วม แต่ผู้เสียหายก็ยังไม่ได้เซ็นยินยอมแต่อย่างใด ก็ถูกริบเงินในบัญชีเงินฝาก  ซึ่งการกระทำดังกล่าว ผิดข้อบังคับประกาศหลักเกณฑ์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ถึง 6 ข้อ จึงอยากร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จากเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่ทำพฤติกรรม ไม่เคยแจ้งให้ผู้เสียหายไปไกล่เกลี่ยลูกหนี้ ซึ่งเล็งเห็นว่ากลั่นแกล้งให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย 


ด้าน นายปรเวศ รัฐขจร  ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม กล่าวว่าทางศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องจากผู้เสียหายและจะดำเนินการส่งเรื่องถึง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อตรวจสอบและประสานงานต่อ หลังจากนี้จะทำการตรวจสอบจะแจ้งกลับไปทางผู้เสียหายรับทราบถึงความคืบหน้าอีกครั้ง