หญิงวัย 60 เป็นตุ่มที่หัวเข่า กินยา ทายา ยังไงก็ไม่หาย สุดท้ายพบเป็นโรคร้าย

หญิงวัย 60 เป็นตุ่มนูน มีแผลที่หัวเข่า ซื้อยาแก้อักเสบมากิน ทาเองก็ไม่หาย สุดท้ายกลายเป็นมะเร็งผิวหนัง เตือนสังเกตตัวเอง

นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arak Wongworachat ระบุเนื้อหาดังนี้ 

เป็นตุ่มนูน มีแผลที่หัวเข่า เข้าใจว่าเกิดจากน้ำเหลืองเสีย สุดท้ายกลายเป็นมะเร็งผิวหนัง

 

หญิงวัย 60 เป็นตุ่มที่หัวเข่า กินยา ทายา ยังไงก็ไม่หาย สุดท้ายพบเป็นโรคร้าย

ผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปีเศษให้ประวัติว่า เป็นตุ่มนูนขนาด 0.5 เซนติเมตร ที่เข่าขวา มาประมาณ 1 เดือน ต่อมาตุ่มแตกเป็นแผลมีเลือดไหล เสียดสีกับกางเกง ซื้อยาแก้อักเสบมากิน ทาเองก็ไม่หาย สุดท้ายมาพบแพทย์แผนกศัลยกรรม ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ แพทย์แนะนำให้ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ ผลตรวจทางพยาธิวิทยา พบเซลล์มะเร็ง ชนิด SCC การตัดชิ้นเนื้อครั้งแรก เป็นเพียงเพื่อดูว่าเป็น แผลจากอะไร แต่เมื่อเป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัดผู้ป่วยอีกครั้ง ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อวางแผนผ่าตัด รอยโรคออกเป็นวงกว้างให้หมดทุกด้าน แต่ตำแหน่งเนื้องอกบริเวณข้อเข่า ที่เป็นข้อพับ หากตัดแล้วเย็บแผลธรรมดา จะเป็นผลให้แผลแยกในภายหลัง จึงต้องอาศัยเทคนิคการผ่าตัด แบบพิเศษ โดยใช้เนื้อเยื่อผิวหนังส่วนที่ขาหนีบ มาปิดแทน เนื้อเยื่อส่วนที่ตัดออกไป หลังจากนั้นภายในสองสัปดาห์ ผิวหนังที่เป็นกราฟ ที่นำมาทดแทน ก็จะติดกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน

หญิงวัย 60 เป็นตุ่มที่หัวเข่า กินยา ทายา ยังไงก็ไม่หาย สุดท้ายพบเป็นโรคร้าย

เป็นตุ่มนูน ทั้งชนิดมีแผลหรือไม่มีแผล อาจมีการเปลี่ยนสี เปลี่ยนขนาด โตเร็วผิดปกติ

อย่านิ่งนอนใจ รีบไปปรึกษาแพทย์ มะเร็งผิวหนัง หากปล่อยทิ้งไว้ ขนาดโตขึ้น การผ่าตัดก็ยากขึ้น และมะเร็งสามารถลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่นๆได้

มะเร็งผิวหนังที่บริเวณเข่า พบ ได้น้อย แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่ใบหน้า ศรีษะ และทุกส่วนของร่างกาย

เวลาอาบน้ำมันตรวจร่างกายตนเองอยู่เสมอ

หญิงวัย 60 เป็นตุ่มที่หัวเข่า กินยา ทายา ยังไงก็ไม่หาย สุดท้ายพบเป็นโรคร้าย

ดูโพสต์และภาพเต็มคลิก