หนุ่มช่วยไถ่ตัว PR สาว ความสงสารเป็นเหตุ โดนแฟนเก่าแค้นตามกระทืบอ่วม 2 ปี

หนุ่มร้องสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ หลังยื่นมือช่วยสาว pr 2 หมื่นบาท เพื่อไถ่ตัวจากแฟนเก่าที่ชอบทำร้ายร่างกาย แต่กลับโดนตามทำกระทืบอ่วม

วันที่ 12 ส.ค. 2567 ที่ทำการสายไหมต้องรอด นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วย นายทินกร ศรีนวล อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย ได้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจาก ได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวคนนึงที่เป็นพีอาร์ และถูกคนเลี้ยงดู ทำร้ายร่างกายอย่างหนัก จึงได้ให้เงินไป 2 หมื่น เผื่อไถ่ตัวเองออกมา แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวถูกตามทำร้ายร่างกายจนน่วม 

 

หนุ่มช่วยไถ่ตัว PR สาว ความสงสารเป็นเหตุ โดนแค้นตามกระทืบอ่วม 2 ปี

นายทินกร กล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้หญิงคนนึงผ่านแอพพลิเคชั่น รู้ว่าเป็นพีอาร์สาว ตนก็ได้มีการพูดคุยกัน และฝ่ายหญิงก็เริ่มเล่าปัญหาชีวิตให้ฟังว่าตัวเธอเป็นพีอาร์สาว ไปรู้จักกับผู้ชายคนนึงซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูเธอ ให้เงิน ให้ทอง แต่ว่าตอนหลัง ๆ มา ไม่ได้ให้เงินใช้แล้ว และก็ทำร้ายร่างกายกันด้วย พร้อมกับเล่าว่า คนดูแลของน้องตามรังควาน ส่งคนมาติดตาม คุกคาม เคยขับรถไล่จะชนน้อง ทุบกระจกให้น้องลงจากรถ รวมถึง น้องโดนเหยียบหน้าอกเอาปืนจ่อด้วย 

 

หนุ่มช่วยไถ่ตัว PR สาว ความสงสารเป็นเหตุ โดนแค้นตามกระทืบอ่วม 2 ปี

 

ฝ่ายหญิงบอกว่าทนไม่ไหวแล้วเพราะว่าถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้ตลอดระยะเวลาที่เลี้ยงดู ประมาณ 7-8 เดือน จึงได้ขอเลิก แต่คนเลี้ยงลูกบอกว่าถ้าอยากจะขอเลิกก็ให้นำเงินที่ให้ไปมาคืน ทั้งหมด 2 หมื่นบาท ในตอนนั้นตนรู้สึกสงสาร เชื่อใจ ตนอยากให้น้องมีชีวิตที่ดี ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ชีวิตของคนคนนึง ไม่ควรถูกรังแกขนาดนี้ ตนจึงได้ตัดสินใจ ให้เงินไป 2 หมื่นบาท เพื่อให้น้องไถ่ตัวเองออกมา 

และเมื่อผู้หญิงโอนเงินให้ฝ่ายที่เลี้ยงดูเรียบร้อยแล้วอีกฝ่ายก็โกรธแค้นมาก ไปสืบหาว่าเอาเงินมาจากไหน พอมารู้ว่าตนเป็นคนให้ จึงได้ให้คนมาทำร้ายร่างกาย ทั้งหมด 4-5 ครั้ง ตลอดระยะเวลา ร่วม 2 ปี ตั้งแต่ปี 2565 

 

หนุ่มช่วยไถ่ตัว PR สาว ความสงสารเป็นเหตุ โดนแค้นตามกระทืบอ่วม 2 ปี

 

โดยในครั้งแรก เกิดขึ้นวันที่ 23 ก.พ. 2565 ตนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวหน้าเซเว่นกับฝ่ายหญิงอยู่ ในขณะนั้นฝ่ายที่เลี้ยงดูได้ตรงปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกายตนเลย แล้วบอกว่า "มายุ่งเรื่องชาวบ้าน" ตนจึงหนีเข้า สน.สุทธิสาร จากนั้นอีกฝ่ายอ้างว่ารู้จักตำรวจยศใหญ่ มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ โดยมีการไกล่เกลี่ยกัน 1 ครั้ง ซึ่งอีกฝ่ายได้ขอโทษ จากนั้นคดีก็เงียบหาย

ต่อมา วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ อยู่แต่ปรากฏว่ามีชายไม่รู้จัก ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบด้านขวา แล้วใช้เท้าถีบจักรยานยนต์จนล้ม ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ 
จนมาถึง วันที่ 9 ก.ย. 2566 ตนอยู่ในบ้าน แต่อีกฝ่ายตามมาถึงหน้าบ้าน โดยไปถามเพื่อนบ้านว่าตนอยู่ในบ้านไหม จากนั้นตนก็ถูกทำร้ายคาบ้านตัวเอง

กระทั่ง วันที่ 30 ก.ค. 2567  มีชายไม่ทราบชื่อ 4 คน มาขู่ตนอีก บอกว่า จะทำร้ายร่างกายตน ตนจึงกลัวมาก เลยมาลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายแต่อีกฝ่ายก็ไม่หยุดราวี วันที่ 
1 ส.ค. 2567  และ วันที่ 5 ส.ค. 2567  อีกฝ่ายให้คนมาทำร้ายร่างกายถึงหน้าบ้าน ตนก็วิ่งหนีเอาตัวรอดเข้าไปในบ้าน แต่คนพวกนั้นก็ตามเข้ามาทำร้ายถึงในบ้านอีก

ขณะที่ ฝ่ายหญิงเห็นว่าตนถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้ก็รู้สึกสงสารจึงได้ตัดสินใจขาดการติดต่อไป เพราะไม่อยากให้ตนได้รับบาดเจ็บ แต่ถึงแม้ว่าจะเลิกรากับฝ่ายหญิงไปแล้ว อีกฝ่ายก็ยังให้คนมาทำร้ายร่างกายตนไม่เลิก โดยตนรู้ว่าอีกฝ่ายได้จ้างคนมาทำร้ายตนถึง 5 ครั้ง มาแต่ละครั้ง ก็จะมาหลายคน พูดจาข่มขู่ อ้างว่า "สะกดคำว่าตายไม่เป็นหรอ เดี๋ยวกูสะกดให้" บางคนได้พกอาวุธมีดมาด้วย โดยทุกครั้งที่ถูกทำร้ายร่างกายตนไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ตลอด ที่ สน.สุทธิสาร  1 ครั้ง  และ ที่ สภ.คลองหลวง 4 ครั้ง แต่ไม่เคยได้รับการติดต่อมาเลย

"เชื่อว่าอีกฝ่ายรู้สึกโกรธแค้นและอาฆาตที่ตนยื่นมือเข้าช่วยเหลือน้องผู้หญิงคนนี้ ประกอบกับ ทราบมาว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีฐานะ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ชอบอ้างว่ารู้จักกับตำรวจยศใหญ่ จึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตนจึงอยากให้ตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ อยากให้อีกฝ่าย ได้รับผลกรรมที่ทำไว้ อย่าคิดว่าเงินคุณจะซื้อได้ทุกอย่าง สักวันกรรมจะตามสนอง ส่วนเงิน 20,000 บาท ตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้คืน แต่เชื่อว่าเราได้ทำสัญญาใจกันแล้วคิดว่ายังไงฝ่ายหญิงก็ต้องคืนในสักวัน" นายทินกร กล่าว 

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรปทุมธานี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ให้เข้ามา ติดตามความคืบหน้า เพื่อดำเนินการ เพราะมีหลักฐานทั้งคลิปภาพอีกทั้ง มีทั้งมีทั้งนักสืบฝีมือดี เป็นโรงพักเกรดเอ เหตุใดจึงไม่เร่งดำเนินคดี