เปิดข้อมูลใหม่ "หมอเก่ง" เคยสั่ง "ไซยาไนด์" ตกใจ คำค้นหาในอินเตอร์เน็ต

เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยข้อมูล "หมอเก่ง" เคยมีการสั่งซื้อ "ไซยาไนด์" และยังมีคำค้นหาน่าตกใจในอินเตอร์เน็ต

จากกรณีการเสียชีวิตของ "หมอเก่ง" โดยสาเหตุตอนนี้ยังคงเป็นปริศนา และตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจหลักฐาน และหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอยู่ 

สำหรับ หมอเก่ง ก่อนหน้านี้เป็นข่าวว่าครอบครัวประกาศตามหาหลังหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2567 กระทั่งวันที่ 12 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่าพบตัวหมอเก่งแล้ว โดยได้ไปเช่าห้องพักอยู่กับ "ยู" หนุ่มคนสนิทพร้อมยืนยันว่าจะยังไม่กลับบ้าน

ทว่าต่อมาวันที่ 13 สิงหาคม 2567 มีรายงานว่าหมอเก่งถูกหามส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนด้วยอาการวิกฤต ปวดท้องรุนแรง ไม่รู้สึกตัว หัวใจหยุดเต้น

จนกระทั่งวันที่ 14 สิงหาคม 2567 หมอเก่ง เสียชีวิต หลังเข้ารับการรักษา ญาติพยายามติดต่อหานายยู ที่พบว่าขับรถหายไปจากห้องพักที่เช่าอยู่ด้วยกันชั่วคราวแต่ไม่สามารถติดต่อได้

(อ่านข่าว หนุ่มคนสนิทพูดแล้วเหตุการณ์ก่อน "หมอเก่ง" ทรุดเข้า ICU)

วันที่ 15 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ทีมกองพิสูจน์หลักฐานของ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมประชุม ติดตามความคืบหน้าคดี หมอเก่ง เสียชีวิต 

โดยมีการเผยว่า 10 สิงหาคม 2567 วลา 18.25 น. หมอเก่ง ส่งข้อความไปหาเพื่อน บอกว่า "จะฆ่าตัวตายพร้อมกัน ให้มาเตรียมรับศพ 2 ศพ ด้วย" ญาติรู้จึงร้อนใจ ให้ตำรวจไปดูอีกรอบ ซึ่งตำรวจไปถึงที่ห้องพักในเวลา 20.00 น. ทางห้องพักได้ให้ "หมอเก่ง" ไปคุยกับญาติ แต่ "หมอเก่ง" ไม่ประสงค์ที่จะคุยจึงได้ขอออกจากห้องพักที่ จ.นนทบุรี

และจากการหาพยานหลักฐานเบื้องต้นพบว่า "หมอเก่ง" มีความคิดจะฆ่าตัวตาย โดยหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับ "ไซยาไนด์" และสารหนู ซึ่งหาต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.2567 มีการหาข้อมูลว่า สารไซยาไนด์ พิษของมันจะเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหน และได้แคปข้อความเหล่านั้นเก็บไว้โทรศัพท์มือถือ

และยังพบว่ามีการสั่งซื้อไซยาไนด์ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 แต่มีการกดยกเลิกและคืนเงินเรียบร้อย จากการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและมีการสั่งซื้อไซยาไนด์ จึงเชื่อได้ว่ามีความประสงค์อยากจะฆ่าตัวตาย

เปิดข้อมูลใหม่ "หมอเก่ง" เคยสั่ง "ไซยาไนด์" ตกใจ คำค้นหาในอินเตอร์เน็ต

ขอบคุณ NationTV