- 22 ส.ค. 2567
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศฉบับที่ 11/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 24 - 30 ส.ค. 67
วันที่ 22 ส.ค.2567 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศ ฉบับที่ 11/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหล โดย สทนช. ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้
ทั้งนี้ สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 24 – 30 ส.ค.2567 ดังนี้
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ
1.1 ภาคเหนือ
- จ.เชียงราย พื้นที่ อ.เมืองเชียงราย แม่สาย เชียงแสน เวียงแก่น ขุนตาล พญาเม็งราย เวียงชัย เทิง และแม่ลาว)
- จ.เชียงใหม่ พื้นที่ อ.แม่อาย และ เชียงดาว
- จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า ปาย ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง และสบเมย
- จ.ตาก พื้นที่ อ.เมืองตาก ท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ และอุ้มผาง
- จ.ลำปาง พื้นที่ อ.วังเหนือ และงาว
- จ.พะเยา พื้นที่ อ.เมืองพะเยา แม่ใจ ภูซาง ปง เชียงคำ จุน และเชียงม่วน
- จ.น่าน พื้นที่ อ.เมืองน่าน เฉลิมพระเกียรติ ปัว ท่าวังผา เวียงสา ทุ่งช้าง เชียงกลาง บ่อเกลือ สองแคว และภูเพียง
- จ.แพร่ พื้นที่ อ.เมืองแพร่ เด่นชัย สอง ลอง และวังชิ้น
- จ.สุโขทัย พื้นที่ อ.เมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัย ทุ่งเสลี่ยม กงไกรลาศ และศรีสำโรง
- จ.อุตรดิตถ์ พื้นที่ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ลับแล พิชัย ทองแสนขัน และท่าปลา
- จ.พิษณุโลก พื้นที่ อ.ชาติตระการ นครไทย วังทอง และเนินมะปราง
- จ.เพชรบูรณ์ พื้นที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ หล่มเก่า และหล่มสัก
1.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- จ.เลย อ.นาแห้ว เชียงคาน ด่านซ้าย และปากชม
- จ.หนองคาย อ.เมืองหนองคาย สังคม ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ โพนพิสัย และโพธิ์ตาก
- จ.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ ปากคาด บุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา และบึงโขงหลง
- จ.หนองบัวลำภู อ.เมืองหนองบัวลำภู ศรีบุญเรือง และโนนสัง
- จ.อุดรธานี อ.เพ็ญ บ้านดุง และหนองหาน
- จ.สกลนคร อ.เมืองสกลนคร บ้านม่วง คำตากล้า วานรนิวาส สว่างแดนดิน และ พรรณานิคม
- จ.นครพนม อ.เมืองนครพนม บ้านแพง ศรีสงคราม ท่าอุเทน นาหว้า โพนสวรรค์ ปลาปาก และธาตุพนม
1.3 ภาคตะวันตก
- จ.กาญจนบุรี อ.เมืองกาญจนบุรี สังขละบุรี ทองผาภูมิ ศรีสวัสดิ์ ไทรโยค และด่านมะขามเตี้ย
- จ.ราชบุรี อ.สวนผึ้ง และบ้านคา
- จ.เพชรบุรี อ.แก่งกระจาน และหนองหญ้าปล้อง
- จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.หัวหิน ปราณบุรี และบางสะพาน
1.4 ภาคตะวันออก
- จ.นครนายก อ.เมืองนครนายก ปากพลี และบ้านนา
- จ.ปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรี ประจันตคาม นาดี และกบินทร์บุรี
- จ.จันทบุรี อ.เมืองจันทบุรี มะขาม ขลุง และแหลมสิงห์
- จ.ตราด อ.เมืองตราด บ่อไร่ เขาสมิง แหลมงอบ คลองใหญ่ และเกาะกูด
1.5 ภาคใต้
- จ.ระนอง อ.เมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ และสุขสำราญ
- จ.พังงา อ.เมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง และท้ายเหมือง
- จ.ภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง
- จ.สุราษฎร์ธานี อ.เมืองสุราษฎร์ธานี คีรีรัฐนิคม พุนพิน พระแสง และเวียงสระ
- จ.นครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช ลานสกา ถ้ำพรรณรา และทุ่งใหญ่
- จ.ตรัง อ.เมืองตรัง ปะเหลียน นาโยง กันตัง ห้วยยอด รัษฎา และวังวิเศษ
- จ.พัทลุง อ.เมืองพัทลุง ปากพะยูน กงหรา ศรีนครินทร์ และควนขนุน
- จ.สตูล อ.เมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า และมะนัง
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี เลย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี
และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ ลำน้ำงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
แม่น้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
แม่น้ำอิง อ.เทิง จ.เชียงราย
แม่น้ำน่าน อ.เมืองน่าน เวียงสา เชียงกลาง ภูเพียง และท่าวังผา จ.น่าน
แม่น้ำยม อ.ปง เชียงม่วน จ.พะเยา , อ.เมืองแพร่ สอง และหนองม่วงไข่ จ.แพร่ , อ.เมืองสุโขทัย สวรรคโลก ศรีสำโรง ศรีสัชนาลัย และกงไกรลาศ จ.สุโขทัย , อ.เมืองพิษณุโลก พรหมพิราม และบางระกำ จ.พิษณุโลก
แม่น้ำแควน้อย อ.นครไทย และวัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
แม่น้ำป่าสัก อ.หล่มสัก และหนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
ลำน้ำก่ำ อ.เรณูนคร จ.นครพนม
แม่น้ำตราด อ.เมืองตราด เขาสมิง และบ่อไร่ จ.ตราด
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน
2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและพนังกั้นน้ำ เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ อาคารชลศาสตร์ให้พร้อมใช้งาน และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และคำนึงถึงอิทธิพลของการขึ้น – ลง ของน้ำทะเล
4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์