"น้ำท่วมน่าน" มวลน้ำถึง "วัดภูมินทร์" ห่วงภาพ กระซิบรักบันลือโลก เสียหาย

"น้ำท่วมภาคเหนือ" หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนหนทางและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 22 ส.ค. 2567 "น้ำท่วมน่าน" มวลน้ำได้ถึงวัดภูมินทร์ ในพื้นที่ ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดน่าน ซึ่งมีจิตรกรรมฝาผนัง "กระซิบรัก ปู่ม่านย่าม่าน" อายุหลายร้อยปี วาดอยู่ที่ฝาผนังวัด

 

ล่าสุดวันที่ 23 ส.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊ก วัดภูมินทร์ จ.น่าน ได้เผยภาพสถานการณ์น้ำท่วมเช้านี้ ซึ่งตอนนี้น้ำท่วมถึงบริเวณฐานวิหารภูมินทร์ด้านล่าง และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยชาวโซเชียลต่างแห่เป็นห่วงว่าจิตรกรรมฝาผนัง กระซิบรักบันลือโลก "ปู่ม่านย่าม่าน" ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม จะได้รับความเสียหาย เพราะสถานการณ์น้ำท่วม

 

ขณะที่ทางคณะสงฆ์จังหวัดน่าน โดยพระเดชพระคุณพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน ร่วมกับวัดภูมินทร์ ตั้งโรงครัว ส่งเสบียงอาหาร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 

 

สำหรับ วัดภูมินทร์ ถือว่าเป็นวัดสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน มีลักษณะที่สำคัญคือโบสถ์และวิหารถูกสร้างเป็นอาคารเดียวกัน สร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ.2139 โดยเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เดิมชื่อ วัดพรหมมินทร์ ซึ่งเป็นพระนามของเจ้าเจตบุตรฯ ผู้สร้างวัด สันนิษฐานว่าในภายหลังได้เรียกชื่อกันเพี้ยนมาเป็นชื่อวัดภูมินทร์ในปัจจุบัน

ภายในพระอุโบสถวัดภูมินทร์ พระอุโบสถจตุรมุข (พระอุโบสถที่ประกอบด้วยมุขสี่ด้าน) ของวัดแห่งนี้ กรมศิลปากรได้สันนิษฐานว่า เป็นพระอุโบสถจตุรมุขหลังแรกของประเทศไทย ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ออกไปทางด้านประตูทั้งสี่ทิศ หันเบื้องพระปฤษฏางค์ (หัวไหล่) ชนกันประทับนั่งบนฐานชุกชี ปางมารวิชัย

 

นักโบราณคดีบางส่วนสันนิษฐานว่า แสดงถึงพระพุทธเจ้าองค์ต่างๆ คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า และพระโคตมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ในขณะที่บางส่วนสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเลียนแบบลักษณะของพระพรหมสี่พักตร์ ซึ่งปรากฏในพระนามของผู้สร้างวัด คือเจ้าเจตบุตรฯ และกลุ่มสุดท้ายมองว่าสื่อถึงพรหมวิหาร 4

วัดภูมินทร์ ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมื่อ พ.ศ. 2410 ใช้ระยะเวลารวมเกือบ 7 ปี ซึ่งสันนิษฐานว่าในการบูรณะครั้งนี้ไ ด้ทรงมีรับสั่งให้วาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง หรือภาษาคำเมืองเรียกว่า "ฮูบแต้ม" ภายในพระอุโบสถจตุรมุข ซึ่งรวมทั้งภาพที่มีชื่อเสียงอย่าง "กระซิบรักบันลือโลก" หรือ "ปู่ม่านย่าม่าน" ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณกระซิบสนทนากัน ผู้ชายสักหมึก ผู้หญิงแต่งกายไทลื้ออย่างเต็มยศ ภาพวาดของหนุ่มสาวคู่นี้มีความประณีตมาก ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์