เตือน 11 จังหวัดภาคกลาง ยกของขึ้นที่สูง เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำ

"เขื่อนเจ้าพระยา" เพิ่มการระบายน้ำ กรมชลประทาน เตือนประชาชน 11 จังหวัด เตรียมยกของขึ้นที่สูง เฝ้าสังเกตใกล้ชิด

สถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุดวันที่ 26 ส.ค. 2567 สถานการณ์น้ำ เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ล่าสุดพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ล่าสุดวัดได้ 1,068 ลบ.ม./วินาที (ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวขึ้น 25 ซม.ในรอบ 24 ชม. ล่าสุดวัดได้ 16.19 ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)

 

เตือน 11 จังหวัดภาคกลาง ยกของขึ้นที่สูง เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำ

โดยที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 650 ลบ.ม./วินาที ขึ้นไปที่ 700 ลบ.ม./วินาที ส่งผลระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นล่าสุดวัดได้ 9.64 ม.รทก. 


กรมชลประทาน ได้ออกหนังสือ แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำฉบับที่ 4 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร

 

 

โดยช่วงวันที่ 26 ส.ค. นี้ มวลน้ำเหนือปริมาณกว่า 1,000 ลบ.ม./วินาที จะไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ เข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ทำให้เขื่อนเจ้าพระยามีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นไปอยู่ในเกณฑ์ 700-900 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มนอกคันกั้นน้ำริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะมีระดับน้ำที่สูงขึ้นจากเดิมได้อีก 40-80 ซ.ม. จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ รวมทั้งติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป