- 03 ก.ย. 2567
สืบนครบาล ร่วมสืบ115 รวบ "บังโอ๋โก๋อุ้ม" วินจยย. สายโหด ก่อเหตุอุกอาจร่วมกันใช้มีดขอฟันผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่สืบนครบาล ร่วมกับ นักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 จับกุม "บังโอ๋โก๋อุ้ม" วินมอเตอร์ไซค์สายโหด ก่อเหตุอุกอาจร่วมกันใช้มีดขอฟันผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยก่อเหตุเมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายคือ
1. นายสุรศักดิ์ หรือบังโอ๋ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2985/2567 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2567
2. นายนราธิป หรือโก๋อุ้ม อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2986/2567 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2567
กระทำความผิดฐาน "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส,ร่วมกันบุกรุกโดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน,ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และพาอาวุธ(มีด)ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร" จับกุมบริเวณลานโล่งปากซอยลาดพร้าว 85 ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองถนนสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์กล่าวคือ กลางเดือน มีนาคม 2567 ขณะที่ หญิงสาวคนหนึ่งเดินกลับจากเลิกงานเพื่อจะโดยสารรถจักรยานยนต์รับจ้าง ย่านวังทองหลางเมื่อมาถึงที่บริเวณห่างจากวินประมาณ 700 เมตร นายสุรศักดิ์ หรือ “บังโอ๋ ได้ขับรถมาเทียบท่ารอให้เธอขึ้นรถ แต่ปรากฎด้วยความที่เธอตัวเล็ก และรถจักรยานยนต์ค่อนข้างสูง เธอจึงขอให้เปลี่ยนรถคันใหม่เพราะนั่งไม่สะดวก หลังจากนั้น “บังโอ๋” ขับรถหายไปจากบริเวณดังกล่าวพร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวจะไปตามวินคนอื่นมารับ” แต่ผ่านไป 30 นาที จนเธอรอไม่ไหว ตัดสินใจเดินกลับไปที่วิน และถาม "บังโอ๋" ว่าทำไมถึงไม่มีรถมารับและปล่อยให้เธอต้องยืนรอนาน แต่ปรากฏว่า “บังโอ๋” จนง้างมือฟาดตบเข้าไปที่ใบหน้าของหญิงสาว แต่เธอหลบได้ทัน พร้อมกับวิ่งหลบหนีไป และโทรศัพท์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้แฟนของเธอได้ฟังและเดินทางมาที่เกิดเหตุ
จากนั้นได้เกิดการโต้เถียงกัน "บังโอ๋" กับลูกน้อง "โก๋อุ้ม" จัดการรุมสาวหมัดเข้าซัดผู้เสียหายผู้พ่อจนล้มลงไปกองกับพื้น หลังจากนั้น"โก๋อุ้ม" กลับมาพร้อมกับอาวุธมีดขอยาวประมาณ 80 ซม. พร้อมกับหยิบอาวุธมีดหัวตัด ยาวประมาณ 100 ซม. โยนมาให้กับ "บังโอ๋" ใช้เป็นอาวุธ จนสองพ่อลูกวิ่งหนีหลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้าน แต่ปรากฎว่าผู้เสียหายคนลูกวิ่งหนีเข้าไปในบ้านไม่ทัน จึงซุกตัวอยู่ข้างรถจักรยาน แต่พ่อ ลืมอันตรายทุกอย่างที่ขวางหน้าคว้าอาวุธมีด วิ่งไปช่วยลูก จนเกิดการปะทะดาบกันจนมีดดาบของผู้เสียหายที่เล็กกว่านั้น หักลงครึ่งท่อน และเป็นเหตุให้กระดูกนิ้วมือของผู้เสียหายแตกละเอียดจนได้รับบาดเจ็บ แต่ยังตัดสินใจคว้ามือลูกวิ่งต่อ จนสามารถหนีกลับเข้าไปหลบในบ้านได้ "บังโอ๋ และโก๋อุ้ม" เดินวนเวียนเอามีดดาบลากพื้นครืดไปมา ตะโกนท้าทายทั้ง 2 คน ตลอดเวลา "พวกมึ..แน่จริงก็ออกมา กูจะฟันให้หัวแบะเลย" โก๋อุ้มตะโกนสบถท้าทายอย่างหยาบคาย พร้อมกับใช้มีดดาบสับเบาะรถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้หน้าบ้าน
ทั้งสองคนพ่อลูกเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย จนล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ไว้แล้ว พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้รับรายงานเหตุดังกล่าว และเห็นว่าหากปล่อยให้ คนร้ายที่มีพฤติการณ์อุกอาจ สั่งการส่งชุดสืบสารวัตรแจ๊ะ ยกโขยงลูกศิษย์ หลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นที่ 115 ชุดที่ 7 ทั้ง 5 ชีวิต ลงพื้นที่สืบสวนจับกุมบังโอ๋และโก๋อุ้ม
ในชั้นจับกุม "บังโอ๋ และโก๋อุ้ม" ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า "ตนเองยืนยันว่าฝ่ายผู้เสียหายเป็นคนหาเรื่องก่อน จากการไม่พอใจที่ตนปล่อยให้ผู้หญิงที่เป็นเมียของผู้เสียหายต้องรอรถนาน เมื่อบังโอ๋โดนต่อย โก๋อุ้มซึ่งเป็นน้องเลยต้องมาช่วย แต่ในส่วนที่กลับไปหยิบอาวุธมาใช้ทำร้ายผู้เสียหายนั้น ตนเองยืนยันว่าพวกของตนไม่ได้ฟันผู้เสียหายแบบสับเป็นหมู แต่ฟันแค่ระยะประชิดเพื่อป้องกันตัว" หลังจับกุมตัว ได้นำตัว นายสุรศักดิ์ และนายนราธิป ส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า "เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ เนื่องจากพยานหลักฐานที่มีค่อนข้างแน่นหน้าและรัดกุม ประกอบกับผู้เสียหายในคดีนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พฤติการณ์ของคนร้าย 2 คนนี้ ถือได้ว่าเป็นภัยต่อสังคม เพราะคนร้ายเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้าง ทั้ง 2 คน เป็นอาชีพที่ประชาชนทั่วไปต้องสัมผัสเป็นประจำทุกวัน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มีข้อมูลหรือพบเห็นวินจักรยานยนต์หรือคนขับรถโดยสารประเภทอื่น มีพฤติกรรมรุนแรงและอุกอาจเช่นนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ "สืบนครบาล IDMB" เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น."