ถึงว่าคนล้นคุก อดีตผู้ต้องขัง เผยความสุขสบายจ่าย100เดียว โรงพักหรือโรงแรม

4 ก.ย.67 นางสาว บี อดีตผู้ต้องขังหญิง ออกมาเปิดเหตุการณ์กับ กัน จอมพลัง หลังจากที่ตนเองถูกควบคุมตัวที่โรงพักแห่งหนึ่งในสมุทรสาคร พร้อมภาพหลักฐาน ถึงขั้นห้องควบคุมเหมือนบังกะโล มีแม่บ้านปูที่นอนผ้าห่มพร้อม เสียเงิน 100 บาท ใช้โทรศัพท์ได้ หิวเมื่อไรจ่าย 100 มีมาม่า 2 ห่อ พร้อมกระติกน้ำร้อน รูมเซอร์วิสส่งถึงห้อง

 

แถมแบตฯหมดไม่ใช่ปัญหามีบริการชาติแบตชั่วโมงละ 30 ไม่พอผู้ถูกคุมขังอ้าง มีบริการWIFI ฟรีอีกด้วย โทรศัพท์จะถูกเรียกกลับทุก 7 โมงเช้า ที่ผ่านมาไม่แปลกใจทำไมคนล้นคุกเพราะเข้ามาสุขสบายกว่าอยู่บ้าน พร้อมตั้งคำถามทุกคนได้รับบริการแบบนี้หรือไม่
 

นางบี (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า อันดับแรกที่ตนเข้าไปมอบตัว เจ้าหน้าที่ควบคุมห้องขังจะสอบถามว่า มีทรัพย์สินอะไรไหม มีเงินติดตัวเท่าไหร่ ตนเองบอกไปว่าไม่มีเงินติดตัว เจ้าหน้าที่คุมขังจึงให้เอากระเป๋าและโทรศัพท์วางไว้ด้านนอกและพูดกับตนว่า "น้องไม่มีเงินให้ไปอยู่โซนเปิด" ตอนแรกตนเองแปลกใจว่า โซนเปิดคืออะไร พอเข้าไปด้านใน มี 2 โซน โซนเปิดกับโซนปิด โซนปิดจะมีผ้ากั้น สามารถนอนได้ ส่วนโซนเปิดคนนอกจะมองเข้ามาเห็นด้านในห้องขังได้ ซึ่งตนเองได้เข้าไปอยู่ในโซนเปิด 

จากนั้นมีคนกลางที่เป็นชาวเมียนมาค่อยให้คำแนะเข้ามาอธิบายขั้นตอนในการอยู่ร่วมกัน ซึ่งตนก็งงที่คนกลางอธิบายแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อมาตนเองคิดถึงลูก อยากใช้โทรศัพท์โทรหาลูก จึงสอบถามเพื่อนในห้องขัง เพื่อนในห้องแนะนำว่า ให้ลองขอเจ้าหน้าที่ดู แค่พอลองถาม เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาต

จากนั้นคนกลางชาวเมียนมา ที่คอยแนะนำตอนแรก เดินเข้ามา บอกกับตนว่าให้เอาเงินมา 100 บาท เดียวไปเคลียร์กับนายเวรให้ 100 บาทตนจะสามารถใช้โทรศัพท์ได้จนถึง 07.00 น (เช้า) แต่ต้องมีเสื้อและมีผ้าคลุม คลุมเอาไว้ และเวลาใช้โทรศัพท์ ต้องคอยเอาผ้าปิด เพื่อที่จะหลบกล้องวงจรปิด ไม่ให้คนภายนอกเห็น

ตนเองจึงยืมเงินเพื่อนในห้องขัง จ่ายเงินไป 100 บาท คนกลางชางเมียนมารับเงินไป ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินเข้ามาหน้าห้องขัง มาพร้อมกระเป๋าโทรศัพท์ และมีกฎว่าห้ามแชร์ ห้ามถ่ายรูป และสามารถใช้ได้จนถึง 7.00น. ตนเองยืนรอรับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้คุมขังจึงได้ใช้โทรศัพท์

จากนั้นตนเห็นคนเดิม เดินถือกระติกน้ำร้อนเดินไปเดินมา ตนจึงถามว่าที่นี่มีกระติกน้ำด้วยเหรอ ปรากฎว่า คนกลางชาวพม่าคนนั้น บอกว่า สามารถใช้ได้ แค่ต้องจ่ายเงิน 50-100 บาท มีทั้ง มาม่า มีทั้งกาแฟ จะเอาอะไรสามารถบอกได้ตลอด ถ้าอยากทานผลไม้ ก็ต้องเสียเงิน มีผลไม้ให้เลือกพร้อมมีดไว้ปลอกผลไม้ในห้องขัง หากอยากชาร์จแบต เสียค่าชาร์จชั่วโมงละ 30 บาท เท่านั้น

พอตกกลางคืน ใครต้องการผ้าปูที่นอน อยากนอนสบาย หรือพัดลมส่วนตัว จ่าย 100 บาท เดียวมีคนเอาผ้าปูที่นอนมาปูให้เสร็จเรียบร้อยใครอยากได้น้ำกระท่อม บุหรี่ ใบกัญชา สามารถสั่งได้ตลอดเวลาที่น่าตกใจ มีชาวเมียนมาอีกคนมาเล่าให้ตนเองฟังว่า ตั้งแต่เข้ามา จ่ายเงินไป 5,000 บาท ซึ่งได้ห้องนอนส่วนตัว มีที่ซักผ้า ได้อยู่ในโซนปิด มีผ้าม่านกั้นไม่ให้คนนอกมองเห็นเข้ามาได้

 

ที่ตนออกมาพูดในวันนี้ อยากเป็นกระบอกเสียงให้คนชาวสมุทรสาคร เนื่องจากชาวเมียนมาบางคน ไม่มีใบอนุญาติให้เข้ามาค้าขายในพื้นที่สมุทรสาคร จากที่โดนจับไปคุมขัง สักพักก็ออกม่ค้าขายต่อได้ ทำให้ตอนนี้คนไทยในพื้นที่สมุทรสาคร ทำการค้าขายสู้ชาวเมียรม่าไม่ได้ จึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยความจริง อยากให้สังคมของคนสมุทรสาครดีขึ้น

ด้านนาย เอ (นามสมมุติ) อดีตผู้ถูกคุมขังชายเปิดเผยว่า ตนเองมายืนยันว่า ห้องคุมขังฝั่งชาย เป็นระบบเดียวกันกับห้องคุมขังฝ่ายหญิง และยังเคยเห็นว่าเห็นว่า หากมีคนสั่งซื้อกัญชา จะมีคนนอกห้องขัง โยนกัญชาเข้ามาในห้องขัง โยนบุหรี่เข้ามา เพื่อให้ผู้ถูกคุมขังสูบกันอย่างปกติ มีโทรศัพท์ เหมือนกัน 

ในส่วนของ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับ อดีตผู้ถูกคุมขังที่โรงพักแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยอดีตผู้คุมขังบอกว่า หลังจากที่เข้าไปอยู่ ต้องถึงกับแปลกใจ ที่ให้ห้องขังเหมือนอยู่บังกะโล มีแม่บ้านปูที่นอนผ้าห่มพร้อม เพียวจ่ายเงิน 100 บาท หากใครอยากใช้โทรศัพท์ก็จ่ายเพิ่มอีก 100 บาท หิวเมื่อไหร่จ่าย 100 มีมาม่าให้ 2 ห่อ พร้อมกระติกน้ำร้อน รูมเซอร์วิสส่งถึงห้อง แบตหมดไม่ใช่ปัญหามีบริการชาติแบตชั่วโมงละ 30 ไม่พอผู้ถูกคุมขังอ้าง มีบริการไวไฟฟรีอีกด้วย โทรศัพท์จะถูกเรียกกลับทุก 7 โมงเช้า

ตอนนี้ตนเองประสานไปที่ ท่านผู้บัญชาการภาค 7 ซึ่งท่านทำงานโดยเร่งด่วน ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามที่ได้ข้อมูลมาหรือไม่ ตนเอฃเชื่อว่าท่านเอาจริงเอาจังกับกรณีนี้อยู่แล้วร่วมถึงอดีตผู้ถูกคุมขัง มีหลักฐาน มีรูปถ่าย มีใครคอยอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่ หากมีผู้คุมขังที่อยู่นานแล้ว ทำตัวเหมือนมาเฟีย แล้วใช้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวมาหาผลประโยชน์ มาหาเงิน ตนมองว่าไม่ถูกต้อง ถ้ามีแบบนี้ต้องจัดการให้ไม่เกิดขึ้น ความจริงแล้วตนเองอยากให้เปิดกล้องวงจรปิด เผื่อให้ข้อมูลกระจ่างกับประชาชน