ระวัง ไลน์กลุ่มหมู่บ้านยังไม่ปลอดภัย ตามรวบ "เพ็ชร คูคต" ขุดเจอประวัติแสบ

ตำรวจตามรวบตัว "เพ็ชร คูคต" บัญชีม้าให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไลน์กลุ่มหมู่บ้าน หลอกขายน้ำมันพืช และสินค้าอื่นๆ โอนเงินแล้วไม่ส่งสินค้า

วันที่ 19 ก.ย. 2567 มีรายงานว่า ตำรวจสืบนครบาล ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายเจษฎา นาเพ็ชร หรือเพ็ชร คูคต อายุ 24 ปี หนุ่มบัญชีม้าได้ที่หน้าบ้านพักย่านคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ (18 ก.ย.67) ขุดประวัติเจอคดีเก่า

 

ระวัง ไลน์กลุ่มหมู่บ้านยังไม่ปลอดภัย ตามรวบ เพ็ชร คูคต ขุดเจอประวัติแสบ

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม 2566 ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว ว่าถูกคนร้ายอ้างตัวใช้ชื่อบัญชีแอปพลิเคชันไลน์ประกาศและหลอกให้ผู้เสียหายสั่งซื้อน้ำมันพืชในไลน์กลุ่มของหมู่บ้าน ผู้เสียหายสนใจจึงสั่งซื้อไปจำนวนมาก ก่อนจะโอนเงินชำระค่าสินค้าเข้าบัญชีธนาคารชื่อ นายเจษฎา

 

ระวัง ไลน์กลุ่มหมู่บ้านยังไม่ปลอดภัย ตามรวบ เพ็ชร คูคต ขุดเจอประวัติแสบ

 

หลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินเสร็จเรียบร้อย ก็ไม่ได้รับการติดต่อหรือส่งมอบสินค้าตามที่สั่ง จนทราบจากเพื่อนบ้านแจ้งเตือนเข้ามาในไลน์กลุ่มของหมู่บ้านว่า ผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวนั้น เป็นคนร้ายได้แอบอ้างนำข้อมูลบ้านเลขที่ของเพื่อนบ้านไปใช้หลอกขายสินค้า จึงทราบว่าตัวเองถูกหลอก เชื่อว่าน่าจะมีเพื่อนบ้าน และประชาชนอีกหลายรายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้

สอบสวน นายเจษฎา ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ตนเองเรียนจบ กศน. ปัจจุบันยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เกี่ยวกับคดีที่ถูกจับกุม น่าจะเกิดจากเมื่อช่วงปลายปี 2565 ขณะที่ทำอาชีพขายกัญชาอยู่ละแวกบ้าน มีลูกค้ารุ่นพี่ ชื่อ นายพรประสิทธิ์ หรือต๋า มาซื้อกัญชาจากตนเอง และได้ขอเลขบัญชีธนาคารของตนเองไป เพื่อจะโอนเงินจ่ายค่ากัญชา หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีเงินเข้ามาในบัญชีธนาคารของตนอีก ประมาณสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 3,500- 5,000 บาท หลังจากที่มีเงินเข้ามาในบัญชีแล้ว นายพรประสิทธิ์ จะโทรมาบอกให้ตนเองออกไปถอนเงินที่เข้ามาในบัญชี และนำเงินสดไปให้ โดย นายพรประสิทธิ์ ให้หักค่าดำเนินการไปครั้งละ 800 – 1,000 บาท

ระวัง ไลน์กลุ่มหมู่บ้านยังไม่ปลอดภัย ตามรวบ เพ็ชร คูคต ขุดเจอประวัติแสบ

 

ต่อมาตนเองทราบว่า นายพรประสิทธิ์ ถูกจับเมื่อเดือนกันยายน 2566 หลังจากนั้นก็มีหมายเรียกจากตำรวจมาที่บ้าน แต่ตนเองไม่กล้าไปพบตำรวจ เพราะมีคดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ซึ่งอยู่ระหว่างอุทธรณ์คดีอยู่ เกรงจะกระทบ จึงหลบซ่อนตัวภายในบ้าน ไม่ค่อยออกไปไหน 

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่า นายเจษฎา มีประวัติถูกดำเนินคดี "ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน และฉ้อโกง" ก่อนนำตัวส่ง สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดี "ฉ้อโกง และทุจริตโดยนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์"

ด้าน พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบนครบาล หรือผู้การจ๋อ กล่าวว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนโปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพ ที่มีอยู่มากมาย อีกทั้ง แจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคาร หรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาด เพราะอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ก่ออาชญากรรม ตลอดจนโทษการรับเปิดบัญชีม้า ในปัจจุบันมีโทษหนัก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้า ก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 2 แสนถึง 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์นั้น จะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ "สืบนครบาล IDMB" ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน "เราทำทันที"