หดหู่ "พยาบาลฉีดยาผิด" จากคนไข้เป็นแค่หวัด สุดท้ายทรุดหนักโคม่า

น.ส.ภรณ์ณภัส  ม่วงสกุล  อายุ 33 ปี  เดินทางมาจาก จ.ชัยนาท เข้าพบ นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด  เพื่อขอความเป็นธรรม  กรณีพี่ชาย ป่วยเป็นไข้ทางครอบครัวจึงพาไปพบแพทย์ที่ รพ.สรรคบุรี  จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 13 ก.ย.67 ทาง รพ. ได้ให้นอนพักรักษาตัว 1 คืน

จากนั้นวันรุ่งขึ้น หมอแจ้งว่าคนไข้มีอาการดีขึ้นแล้ว แต่มีน้ำตาลตกเล็กน้อย เดี๋ยวหมอจะฉีดกลูโคสให้ ช่วงบ่ายๆก็สามารถกลับบ้านได้  จากนั้นพยาบาลได้นำเข็มฉีดยามาฉีดให้พี่ชาย ระหว่างฉีด จู่ๆพี่ชายก็เกิดอาการชักกระตุกอย่างรุนแรง ทีมแพทย์จึงได้รีบนำพี่ชายเข้าห้อง ICU ทันที

ต่อมาหมอได้ออกมาแจ้งญาติว่า พยาบาลฉีดยาผิด คาดว่าสาเหตุเกิดจากพยาบาลเข้าเวรติดต่อกันหลายวันโดยไม่ได้พัก ครอบครัวพยายามสอบถามหมอว่ายาที่ฉีดผิดคือยาอะไร ทำไมพี่ชายถึงชักตาตั้งขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ

ต่อมาอาการพี่ชายได้ทรุดหนัก ทาง รพ.สรรคบุรี จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ห้อง ICU รพ.ชัยนาท  ซึ่งเป็น รพ. ประจำจังหวัด  เมื่อพี่ชายไปถึง รพ.ชัยนาท  หมอได้เข้ามาสอบถามว่า ญาติรู้ไหมว่าผู้ป่วยเป็นอะไรมา ทางครอบครัวจึงแจ้งว่าทราบเบื้องต้นว่าทางพยาบาลฉีดยาผิด แต่ไม่ทราบว่าเป็นยาอะไร

ทางหมอ รพ.ชัยนาท ถึงแจ้งว่าถ้าอยากรู้ต้องกลับไปถาม รพ.สรรคบุรี ตอนนี้ทางหมอ รพ.ชัยนาท  มีหน้าที่รักษาเท่านั้น  ทำให้จนถึงปัจจุบันครอบครัวก็ยังไม่ทราบเลยว่าพี่ชายถูกฉีดยาอะไรเข้าไป จนทำให้ต้องเข้าพักรักษาตัวที่ห้อง ICU นานกว่า 10 วัน

จนถึงวันนี้พี่ชายก็ยังอาการไม่ดีขึ้น ยังเหมอลอย ลิ้นแข็ง ถามตอบยังไม่ได้ จากพี่ชาย ไม่เคยมีโรคประจำตัว ตอนนี้เกิดอาการแทรกซ้อนที่ตรวจพบตอนนี้คือปอดบวม หมอบอกต้องรักษาระยะยาว ยังไม่รวมกับการที่จะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่าหรือจะมีอาการแทรกซ้อนอื่นอีกหรือเปล่า

ไม่รู้ว่าหลังจากได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วจะเดินได้ปกติไหม เพราะขาคนไข้ไม่มีแรง  จึงตัดสินเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อให้สอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นแต่คดีก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงได้ในนำเรื่องดังกล่าวมาขอความช่วยเหลือจาก #เพจสายไหมต้องรอด  ดังกล่าว

ด้าน นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด  ภายหลังรับแจ้ง ได้ประสานไปยัง ดร.ธนกฤต  จิตรอารีรัตน์  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข  ขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป