- 23 ก.ย. 2567
กรมราชทัณฑ์ ออกหนังสือชี้แจงแล้ว ปมหนุ่มสอบติดข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดแล้ว (ผู้คุมเรือนจำ) แต่ชื่อหาย สุดท้ายแห้ว ถูกอ้างวุฒิไม่ตรง
กรณี หนุ่มสอบติดกรมราชทัณฑ์ เป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ผู้คุมเรือนจำ แต่สุดท้ายนายสุรินทร์ ถูกอ้างวุฒิไม่ตรง โดยเจ้าหน้าหน้าที่แจ้งว่า คุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ ล่าสุดทาง กรมราชทัณฑ์ ออกหนังสือชี้แจงสาเหตุแล้ว
โดย มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้เผยว่า ซ้ำรอยครูเบญ! หนุ่มสอบติด ผู้คุมเรือนจำ สุดท้ายแห้ว ถูกอ้างวุฒิไม่ตรง
เมื่อวานนี้ 22 กันยายน 2567 ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ประธานมูลนิธิรณรงค์ฯ ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิฯ และทนาย ชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ
รับเรื่องร้องเรียนจากนายสุรินทร์ กรณีที่สอบผ่านการคัดเลือกเป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดแล้ว แต่ภายหลังกลับมีเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าคุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ ซึ่งเขาได้ยืนยันกับมหาวิทยาลัยต้นสังกัดแล้วว่าวุฒิตรงตามที่ประกาศรับสมัคร แต่ยังอดเป็นข้าราชการ ที่ทำคัญลาออกจากงานเก่าแล้ว
เรื่องนี้ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ได้ประสานงานไปยัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แล้วซึ่งจะได้เข้ายื่นขอความเป็นธรรมต่อไป
โดยวันที่ 23 ก.ย.67 กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสาร ตามที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้แถลงข่าวกรณี นายสุรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิฯ กรณีที่สอบผ่านการคัดเลือกเป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดแล้ว แต่ภายหลังกลับมีเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่า คุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวว่า จากประกาศลงวันที่ 10 พ.ย.2566 รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน (งานควบคุมผู้ต้องขังชายและอื่นๆ) ได้กำหนดวุฒิการศึกษาของผู้สมัครสอบแข่งขัน ต้องเป็นผู้ได้รับ “ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 2 ปี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือ อนุปริญญาหลักสูตร 3 ปี ในทุกสาขาวิชา เท่านั้น”
โดยมิได้เปิดรับสมัครคุณวุฒิอย่างอื่น ที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน พร้อมกันนี้ ยังได้ระบุเงื่อนไขการสมัครสอบแข่งขัน ว่า ผู้สมัครสอบจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศรับสมัคร และจะต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ในใบสมัครให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง
นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบแข่งขัน หรือตรวจพบว่าเอกสารหลักฐานต่าง ๆ หรือคุณวุฒิ ซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครสอบ กรมราชทัณฑ์จะถือว่าผู้สมัครสอบ เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้มาตั้งแต่ต้น
รวมทั้งหากปรากฏภายหลังว่า ผู้สมัครสอบรายใดมีคุณสมบัติทั่วไปหรือคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งไม่ตรงตามประกาศรับสมัครสอบก็จะไม่มีสิทธิ์ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เข้ารับราชการในตำแหน่งที่สอบแข่งขันดังกล่าว
กรณีของนายสุรินทร์ กรมราชทัณฑ์ ได้มีหนังสือแจ้งให้มารายงานตัวในวันที่ 6 พ.ค.2567 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับราชการ ด้วยความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าผู้สมัครสอบรายดังกล่าวได้ตรวจสอบคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาของตนเองถูกต้องแล้ว
ประกอบกับกรมราชทัณฑ์มีความต้องการบุคลากรเพื่อเสริมอัตรากำลังให้กับเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก แต่กรมฯก็ยังมีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อความถูกต้องก่อนออกคำสั่งแต่งตั้งฯ
และจากการตรวจสอบพบว่า นายสุรินทร์ ใช้คุณวุฒิ “ประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง (ป.กศ.สูง)” ซึ่งไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัคร เจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์ประสานในวันที่ 16 พ.ค.2567 เพื่อขอเอกสารคุณวุฒิเพิ่มเติม อันเป็นการพิทักษ์สิทธิ์ให้กับนายสุรินทร์อย่างเต็มที่แล้ว
และกรมได้มีหนังสือลงวันที่ 24 พ.ค.2567 แจ้งให้นายสุรินทร์ทราบถึงสาเหตุที่ไม่สามารถบรรจุได้ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ โดยมิได้เพิกเฉยหรือเงียบหาย ไม่ได้ติดต่อกลับดังที่กล่าวอ้าง
จากนั้นกรมจึงได้มีคำสั่งบรรจุแต่งตั้งข้าราชการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2567 ซึ่งไม่มีชื่อนายสุรินทร์เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามประกาศรับสมัครสอบดังกล่าว อย่างไรก็ดี นายสุรินทร์ยังคงมีสิทธิ์ในการยื่นเอกสารเพื่อขออุทธรณ์การพิจารณาบรรจุแต่งตั้งในครั้งนี้ได้
ต่อมานายสุรินทร์ได้ดำเนินการจัดส่งหนังสือจากสถาบันการศึกษา เพื่อเป็นการอุทธรณ์ตามสิทธิ์ที่พึ่งได้ ในวันที่ 30 พ.ค.2567 ที่ระบุว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษา ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นสูง สาขาวิชาพลศึกษา หลักสูตร 2 ปี เป็นระดับอนุปริญญา
ซึ่ง"กรมราชทัณฑ์" ได้ตรวจสอบวุฒิการศึกษาจากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. แล้วพบว่า ขัดกับการรับรองคุณวุฒิของ สำนักงาน ก.พ. ที่มิได้ระบุว่าประกาศนียบัตรดังกล่าว คือ "อนุปริญญา"
ที่สำคัญกรมราชทัณฑ์ มิได้เปิดรับสมัครคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน จึงถือได้ว่าผู้สมัครสอบแข่งขันเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ และไม่มีสิทธิ์เข้ารับการสอบแข่งขันฯ การใดที่ได้ดำเนินการไปแล้ว สำหรับผู้ขาดคุณสมบัติให้ถือเป็นโมฆะ
นอกจากนี้ การที่ผู้สอบแข่งขันได้ จะลาออกจากหน่วยงาน หรือ สถานที่ทำงานเดิมเมื่อใดนั้น สามารถกระทำได้ตามสิทธิ์ของผู้สอบแข่งขันได้ โดยการที่กรมราชทัณฑ์ได้มีการประกาศรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ หรือมีหนังสือแจ้งระยะเวลาการดำเนินการ เป็นเพียงการแจ้งห้วงระยะเวลาให้ทราบขั้นตอนและเตรียมความพร้อมสำหรับการบรรจุแต่งตั้ง
โดยกรมราชทัณฑ์จะมีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 แม้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งไปแล้วก็ตาม ก็จะมีกระบวนการตรวจสอบวุฒิการศึกษาและอื่น ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากตรวจสอบภายหลังแล้วพบว่าผู้สอบแข่งขันได้ รายใด เป็นผู้ขาดคุณสมบัติ กรมราชทัณฑ์จักต้องดำเนินการให้ข้าราชการผู้นั้นออกจากราชการ
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่ สำนักงาน ก.พ. กำหนดทุกประการด้วยความถูกต้อง จึงชี้แจงมาเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง