- 30 ก.ย. 2567
"ทนายรัชพล ศิริสาคร" ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาเปิดข้อมูลด้านกฎหมาย เผยในหัวข้อ ลูกหนี้ไม่ใช้หนี้ไม่ติดคุก เจ้าหนี้ด่าลูกหนี้ ทวงหนี้ไม่ระวัง เสี่ยงติดคุก
"ทนายรัชพล ศิริสาคร" ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า ลูกหนี้ไม่ใช้หนี้ไม่ติดคุก เจ้าหนี้ด่าลูกหนี้ ทวงหนี้ไม่ระวัง เสี่ยงติดคุก
คำพิพากษาฎีกาที่ 3757/2564 จำเลยทั้งสองไปหาโจทก์ที่บ้านเพื่อทวงถามหนี้ซึ่งโจทก์กู้ยืมไปและยังไม่ชำระ แต่โจทก์กลับให้ลูกจ้างบอกจำเลยทั้งสองว่าโจทก์ไม่อยู่ ทำให้จำเลยทั้งสองโมโหและกล่าวข้อความ
ต่อหน้าลูกจ้างของโจทก์ การกระทำของจำเลยทั้งสองย่อมเล็งเห็นได้ว่า ข้อความที่กล่าวต่อหน้าลูกจ้างของโจทก์ ซึ่งเป็นบุคคลที่สามนั้นเป็นการใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามซึ่งอาจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยข้อความดังกล่าวทำให้บุคคลที่ได้ยินได้ฟังเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนขี้โกงเป็นหนี้แล้วไม่ยอมชดใช้ แม้จะเป็นการกระทำไปด้วยอารมณ์ แต่ก็ต้องถือว่าจำเลยทั้งสองกระทำโดยเจตนา เมื่อข้อความที่จำเลยทั้งสองกล่าวทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง จากผู้ที่ได้ยินได้ฟัง การกระทำของจำเลยทั้งสอง จึงเป็นความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโจทก์ การที่โจทก์กู้ยืมเงินจำเลยทั้งสองไปและยังไม่ชำระ กับให้ลูกจ้างบอกจำเลยทั้งสองว่าโจทก์ไม่อยู่ แม้จะเป็นเหตุให้จำเลยทั้งสองโกรธและกล่าวข้อความนั้นก็ตาม แต่จำเลยทั้งสองก็ชอบที่จะต้องดำเนินการใช้สิทธิตามขั้นตอนของกฎหมาย อีกทั้งการกระทำของโจทก์ที่ไม่ชำระหนี้ให้แก่จำเลยทั้งสอง แม้จะเป็นพฤติกรรมของลูกหนี้ที่ไม่สมควรกระทำ แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการข่มเหงจำเลยทั้งสองอย่างร้ายแรงด้วยเหตุ
อันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 อันจะเป็นเหตุให้บันดาลโทสะได้”
ฉะนั้นแล้ว หากเจ้าหนี้ได้ใช้สิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายโดยการทวงถามหนี้ต่อลูกหนี้แล้ว แต่กลับไม่ได้รับการชำระหนี้จากลูกหนี้ หรือลูกหนี้กระทำการใดๆ ต่อเจ้าหนี้อันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เจ้าหนี้ก็ชอบที่จะต้องใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลต่อไป “เพราะเป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่เจ้าหนี้มีอยู่”