อาการล่าสุด 2 นร. ประสบเหตุไฟไหม้รถบัส ทัศนศึกษา แพทย์ยังดูแลใกล้ชิด

อาการล่าสุด 2 นักเรียนประสบเหตุไฟไหม้รถบัส ทัศนศึกษา รายแรกเด็กหญิงอายุ 7 ปี ยังใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายถูกไฟไหม้ 20% อีกรายอายุ 9 ปี ถูกไฟไหม้ 30%

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แถลงการณ์เรื่อง อาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ กรณีส่งตัวมารักษาต่อ จำนวน 2 ราย ระบุว่า

จากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 12.30 น. ตามที่เป็นข่าวนั้น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้รับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแพทย์รังสิต จ.ปทุมธานี จำนวน 2 ราย โดยรายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี และ รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี ทั้งนี้ ทีมแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย ศัลยแพทย์  จักษุแพทย์ กุมารแพทย์ ได้ประเมินอาการและให้การรักษาดังนี้

 

อาการล่าสุด 2 นร. ประสบเหตุไฟไหม้รถบัส ทัศนศึกษา แพทย์ยังดูแลใกล้ชิด

เด็ก 7 ขวบ

รายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่าสัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า มือ และแขนทั้งสองข้าง ทั้งหมดประมาณ 20% จากการส่องกล้องทางเดินหายใจ พบว่า ทางเดินหายใจบวมแดง มีเสมหะปนเขม่า เบื้องต้นได้รับยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดและเกลือแร่ทดแทน เนื่องจาก Magnesium ในเลือดต่ำ

 ผู้ป่วยรายนี้มีเปลือกตา ผิวเยื่อตาและกระจกตาขุ่นถลอกทั้งหมด แผนการรักษาในขณะนี้ประกอบด้วยการล้างตาปริมาณมาก ทำหัตถการวางเยื่อหุ้มรก เพื่อครอบคลุมผิวเยื่อตาทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังได้ใช้ยาน้ำตาเกล็ดเลือดซึ่งได้จากการเจาะเลือดของผู้ป่วยเองนำมาผ่านกระบวนการและใช้หยอดตาทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ในการช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อและใส่ Eye Corneal Shield เพื่อครอบและปกป้องผิวเยื่อตา ช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อบุตาติดกับกระจกตาและคงความชุ่มชื้น และให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการอักเสบ

 

อาการล่าสุด 2 นร. ประสบเหตุไฟไหม้รถบัส ทัศนศึกษา แพทย์ยังดูแลใกล้ชิด

เด็ก 9 ขวบ

รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่าสัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า แขน ในระดับความรุนแรงที่ 2 และ 3 ทั้งหมดประมาณ 30% เบื้องต้นได้รับยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดและเกลือแร่ทดแทน เนื่องจาก Magnesium ในเลือดต่ำ

ผู้ป่วยรายนี้มีเปลือกตา ผิวเยื่อตา และกระจกตาขุ่นถลอกทั้งหมด แผนการรักษาผู้ป่วยในขณะนี้ประกอบด้วยการทำหัตถการวางเยื่อหุ้มรก เพื่อครอบคลุมผิวเยื่อตา ทั้งหมด ช่วยปกป้องและฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิวเยื่อตา กระจกตาที่เสียหาย

นอกจากนี้ยังได้ใช้ยาน้ำตาเกล็ดเลือดซึ่งได้ จากการเจาะเลือดของผู้ป่วยเองนำมาผ่านกระบวนการและใช้หยอดตาทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ในการช่วยฟื้นฟู เนื้อเยื่อและให้ความชุ่มชื้นกับกระจกตา โดยทีมแพทย์ได้ใส่ Eye Corneal Shield เพื่อครอบและปกป้องผิวเยื่อตา ช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อบุตาติดกับกระจกตาและคงความชุ่มชื้น นอกจากนี้ผู้ป่วยยังได้รับยาหยอดตาลดการอักเสบ และยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการอักเสบ ทีมแพทย์จะเฝ้าระวังและดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด

ผู้บริหาร แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก