"ดีเอสไอ"เตรียมเชิญผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบนาฬิกาหรู "บอสพอล" ของเก๊หรือไม่ หลังจากในบรรดาสื่อ-ในโลกออนไลน์และผู้เชี่ยวชาญบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เก๊ยันกล่อง

กรณี ดีเอสไอ ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักในซอยรามอินทรา 9 เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินดิไอคอนกรุ๊ป จากการประเมินด้วยสายตาของสื่อและผู้เชี่ยวชาญต่างๆมีความคิดเห็นว่านาฬิกาหรูบอสพอลเป็นของปลอม และตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษในการดำเนินการ นั้น

DSI เชิญผู้เชี่ยวชาญเช็กนาฬิกาหรู บอสพอล ถ้าปลอมก็ไม่มีผลต่อการสืบสวนคดี
ซึ่งจากนั้น หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม พิธีกรข่าวชื่อดัง กล่าวในรายการข่าวกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าค้นห้องเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยรามอินทรา 9 บางเขน กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดทรัพย์สินเป็นนาฬิกาหรู สร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง และอื่นๆ หลายรายการ

DSI เชิญผู้เชี่ยวชาญเช็กนาฬิกาหรู บอสพอล ถ้าปลอมก็ไม่มีผลต่อการสืบสวนคดี

โดยระบุว่า นาฬิกาหรูทั้ง 19 เรือนของบอสพอลที่ดีเอสไอตรวจยึดมานั้น นักเล่นนาฬิกาเห็นภาพแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เก๊ยันกล่อง" ของปลอมทุกเรือน เมื่อนำรูปภาพบอสพอลใส่นาฬิกามาเทียบกัน พบว่าไม่ตรงกับนาฬิกาในกล่องที่ถูกยึด และยังแนะนำเจ้าหน้าที่ ให้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ นั้น

โดยเมื่อวันที่ 23 ต.ค.67  พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่มีการตรวจยึดมานั้นจะเป็นของปลอมหรือของแท้ก็ต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบอยู่แล้ว

DSI เชิญผู้เชี่ยวชาญเช็กนาฬิกาหรู บอสพอล ถ้าปลอมก็ไม่มีผลต่อการสืบสวนคดี

ซึ่งตนจะมอบหมายให้กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา เป็นผู้ดำเนินการและจะต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญมานำทีมตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม หากบรรดานาฬิกาหรูที่ดีเอสไอยึดมานั้นผลพิสูจน์พบว่าเป็นของปลอมก็ไม่มีผลต่อการสืบสวนคดี เพราะต้องขยายผลว่าเหตุใดจึงนำไปซุกซ่อนในห้องพักดังกล่าว และมีครอบครองไว้เพื่อวัตถุประสงค์ใด รวมทั้งมาจากการกระทำความผิดหรือไม่

DSI เชิญผู้เชี่ยวชาญเช็กนาฬิกาหรู บอสพอล ถ้าปลอมก็ไม่มีผลต่อการสืบสวนคดี

นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงว่าปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปภายใต้การสืบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินทางอาญา และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และการเข้าตรวจค้นดังกล่าวเป็นการดำเนินการโดยแสวงหาข้อเท็จจริงจากพยานบุคคลและนำไปสู่การยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย

ส่วนสิ่งของที่ตรวจยึดมานั้น มีทั้งสิ่งของที่เป็นพยานหลักฐานและทรัพย์สินตามที่ได้ข้อมูลจากพยาน ซึ่งรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สั่งการให้กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาเชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบตามขั้นตอนแล้ว