โจ๋คู่รักสำนึกผิด กราบขมา"ครูบาอริยชาติ" สารภาพสิ้นสาเหตุลงมือ

โจ๋คู่รักอ้างกรรมการวัดแสงแก้วโพธิญาณ เข้าสำนึกผิดกราบขมา"ครูบาอริยชาติ"หลังถูกศาลจังหวัดเชียงราย ออกหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน


กรณีตำรวจ บช.สอท. นำกำลังจับกุม น.ส.พัณณิตา อายุ 21 ปี ชาวจ.นครสวรรค์ และนายนันทภพ อายุ 25ปี ชาวจ.พิจิตร ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ 891-892/2567 ลงวันที่ 30 ต.ค.

โจ๋คู่รักสำนึกผิด กราบขมา\"ครูบาอริยชาติ\" สารภาพสิ้นสาเหตุลงมือ

ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยจับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ หลังก่อเหตุแอบอ้างใช้ชื่อบัญชีเฟชบุ๊กอ้างว่าเป็นคณะกรรมการของทางวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย ชักชวนให้ร่วมบริจาคเพื่อซ่อมแซมบูรณะวิหารหลวงลายคำ  ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

โจ๋คู่รักสำนึกผิด กราบขมา\"ครูบาอริยชาติ\" สารภาพสิ้นสาเหตุลงมือ

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 4พ.ย. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4  พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 พ.ต.ท.ปุรเชษฐ์ รัตนวิจิตร รอง ผกก.4 บก.สอท.4  ได้นำตัว ผู้ต้องหาทั้งสอง ไปวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย  เพื่อกราบนมัสการครูบาอริยชาติ และอยากขอขมากรรมในสิ่งที่ได้กระทำลงไป

โจ๋คู่รักสำนึกผิด กราบขมา\"ครูบาอริยชาติ\" สารภาพสิ้นสาเหตุลงมือ

ซึ่งเป็นความต้องการของทั้งสองที่สำนึกผิดและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติกรรม โดยทางครูบาอริยชาติได้สอบถามเรื่องราวและความเป็นอยู่ของทั้งสอง และเทศนาธรรม เบื้องต้นครูบาอริยชาติได้เมตตาอโหสิกรรมและได้สอบถามความเป็นอยู่ได้ทราบว่ามีปัญหาครอบครัวทั้งผู้ชายและผู้หญิง

โดยทาง น.ส.พัณณิตา เล่าว่า พ่อตนเองถูกดำเนินคดีติดคุก ส่วนแม่มีครอบครัวใหม่ตัวเองก็พิการ ส่วนผู้ชายมีปัญหาครอบครัวแยกกันอยู่ อีกทั้งเคยต้องโทษยาเสพติดตั้งแต่เป็นเยาวชนปัจจุบันอยู่กับแม่และน้องสาวทั้งคู่จบ ม.3 ไม่ได้ทำงาน จึงตัดสินใจก่อเหตุเพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพ  โดยเบื้องต้นทาง ครูบาอริยชาติ มีเมตตาให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการช่วยเหลือเรื่องประกันตัวต่อไป