- 05 พ.ย. 2567
ศปช. ยังไม่ปิด เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยต่อทันที พร้อมเตือนภาคใต้ 11 จังหวัดสัปดาห์นี้เฝ้าระวัง น้ำท่วม-น้ำป่า-ดินถล่ม
เพจเฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย ได้มีรายงานระบุว่า วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.00 น. จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันของ คณะทำงานตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ได้ประเมินผลทั้ง ศปช.ส่วนกลางและ ศปช.ส่วนหน้า พบว่า ในพื้นที่ส่วนหน้าได้แก้ปัญหาอุทกภัยและฟื้นฟูผลกระทบจากดินโคลนถล่มจนแล้วเสร็จ และได้ส่งมอบพื้นที่คืนให้กับส่วนราชการในพื้นที่ และได้สั่งการให้ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ฟื้นฟูพื้นที่ในระยะต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยให้รายงานข้อมูลกลับมายัง ศปช.ส่วนกลางทุกวัน โดย ผอ.ศปช. ได้สั่งการให้คงการทำงานของ ศปช.ส่วนกลางไว้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยใน หลายพื้นที่ทั้งภาคกลางและภาคใต้
“ขณะนี้ ศปช.ได้บริหารจัดการน้ำเพื่อให้สามารถลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนลงไม่ให้เกิน 700 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้จุดที่ต่ำที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ คลองโผงเผง คลองบางบาล และแม่น้ำน้อย ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.อ่างทอง ไม่มีผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งคาดจะใช้เวลาอีกราว 1 สัปดาห์” จิรายุ กล่าว
ขณะที่ภาคใต้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ออกประกาศแจ้งเตือน 11 จังหวัดได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ และ ตรัง ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 6 พ.ย. นี้ ซึ่งได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์
"ศปช.มีความห่วงใยพี่น้องทางภาคใต้ ที่หลายจังหวัดมีโอกาสเกิดฝนตกหนักได้ จึงสั่งเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งปริมาณฝน ความลาดชันของพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้ให้หน่วยงานต่าง ๆ ลงไปสำรวจจุดเสี่ยงในความรับผิดชอบของตัวเอง แล้วให้รายงานกลับเข้ามา โดยจะประเมินสถานการณ์ใกล้ชิดต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ขณะเดียวกัน ศปช.ยังได้ตั้งคณะทำงานศึกษาวางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วม ดินโคลนถล่มภาคเหนือ เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ยังต้องทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ซ้ำรอยเหมือนปีที่ผ่านมา" จิรายุ กล่าว