- 06 พ.ย. 2567
ตำรวจทางหลวงโพสต์เอกสารแจงปมดราม่าจับความเร็วรถผู้ประกาศข่าวดัง หลังโดนตั้งข้อสงสัยว่าพยายามสร้างหลักฐานความเร็วปลอมหรือไม่
จากกรณีเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 บนเฟซบุ๊กของผู้ประกาศข่าวชื่อดังโพสต์เล่าเหตุการณ์ตำรวจเรียกจับความเร็วรถบนทางด่วนโทลล์เวย์ พร้อมตั้งข้อสงสัยหลังได้ยินบทสนทนากับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพยายามสร้างหลักฐานเอาผิดว่าความเร็วเกินหรือไม่ ล่าสุดทางกองบังคับการตำรวจจราจร ได้โพสต์ภาพเอกสารชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบข้อสงสัย
โดยผู้ประกาศดังโพสต์เล่าเหตุการณ์ว่า
คุณตำรวจเอางี้เลยหรอครับ ?
… เรื่องมีอยู่ว่าขับรถขึ้นโทลล์เวย์ ตลอดทางขับช่องทางซ้ายสุดตลอด เพราะไม่รีบและมั่นใจว่าไม่ได้ขับเร็ว พอไปถึงด่านจ่ายเงินเจอตำรวจเรียก
ตำรวจ : สวัสดีครับ ความเร็วเกินกำหนดนะครับ ขอใบขับขี่หน่อยครับ
กอล์ฟ : เกินมาเท่าไหร่ครับ
ตำรวจ : 121 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
กอล์ฟ : เกินมา 1 เองเนี่ยหรอครับ มีหลักฐานไหมครับ
ตำรวจ : มีสักครู่นะครับ
(แล้วตำรวจเดินออกห่างแล้วก็วอไปบอกเพื่อนตำรวจว่าขอภาพรถผมตามทะเบียน ….. นี้หน่อย แต่คงลืมไปว่า วอมันเสียงดังและผมก็ได้ยินทั้งหมด ดังนี้ )
*** ตำรวจคุยวอกัน
ตำรวจ 1 : ขอภาพรถบีเอ็มสีดำหน่อย
ตำรวจ 2 : จะให้ใส่ความเร็วเท่าไหร่ 121 หรือ 123
ตำรวจ 1 : 121 เพราะบอกได้แล้วว่า 121
ตำรวจ 2 : แปบๆ
ตำรวจ 1 : ขอภาพรถด้วยนะ
ตำรวจ 2 : ภาพมันไม่ชัดอะ ไม่เห็นเลย เอาไงดี
ตำรวจ 1 : โอเคไม่เป็นไร
(และตำรวจก็เดินเข้ามาหาผม)
ตำรวจ : ครั้งนี้ผมอนุโลมให้ละกันครับ แต่ขอปรับ 300 ข้อหาใบขับขี่หมดอายุละกัน ได้ไปต่ออายุใบขับขี่รึยังครับ
กอล์ฟ : ยังเลยครับ (เรื่องนี้ผมผิดจริงเพราะยังไม่ได้ไปต่อ)
ตำรวจ : จะสแกนจ่ายที่นี่เลย หรือ ที่ สน.ดีครับ
กอล์ฟ : สแกนจ่ายเลยได้ใช่ไหม มันเข้าบัญชีของใครครับ
ตำรวจ : ของส่วนกลางครับ สแกนได้เลย
กอล์ฟ : โอเคครับ
*** นั่นหมายความว่า ผมไม่ได้ขับรถเร็วเกิน แต่พยายามสร้างหลักฐานว่าความเร็วเกินใช่หรือไม่ ?
ต่อมา เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 เพจเฟซบุ๊ก กองบังคับการตำรวจจราจร TFPD บก.02 ได้เผยแพร่เอกสารชี้แจงพร้อมรูปภาพรถของผู้ประกาศดัง โดยมีคำชี้แจงดังต่อไปนี้
กองบังคับการตำรวจจราจร ขอเรียนทราบว่า ตามที่ปรากฎข้อความซึ่งแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตรวจจับความเร็วรถบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยมีข้อความกล่าวอ้างว่า "เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสร้างหลักฐานความเร็วรถเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและจับกุมในข้อหาใบอนุญาตขับรถหมดอายุ"
กก.2 บก.จร. ขอเรียนว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ห้วงเวลา 10.00-12.00 น. บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ (ขาออก) บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางอนุสรณ์สถาน เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ กวดขันการกระทำผิดกฎหมายจราจร และตรวจจับความเร็วรถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามที่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ได้ตรวจพบรถยนต์ตามที่ปรากฏในสื่อ ขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ด้วยเครื่องมือตรวจจับความเร็วรถ
โดยตรวจวัดความเร็วได้เกินกว่าที่ตั้งค่าไว้ (120 กม./ชม.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเรียกให้หยุดรถ และขอให้ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับรถ พร้อมแจ้งว่าขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีการพูดคุยขอดูหลักฐานเกี่ยวกับความเร็วรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้วิทยุสื่อสารเพื่อขอภาพหลักฐานการตรวจจับความเร็ว
และได้รับภาพจากชุดเครื่องมือตรวจจับความเร็วเป็น 3 ระยะ มีความเร็ว 123 กม./ชม., ความเร็ว 121 กม./ชม. และความเร็ว 118 กม./ชม. (ลักษณะขณะตรวจจับรถยนต์ได้ลดความเร็วลง)
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิจารณาการขับขี่รถ จากภาพเคลื่อนไหวของกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ขับขี่ขับรถมาในลักษณะปกติในช่องทางด้านซ้าย ลักษณะลดความเร็วลงขณะตรวจจับจึงพิจารณาว่ากล่าวตักเตือนๆ และแนะนำให้ผู้ขับขี่ขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบว่า ใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับขี่หมดอายุแล้ว จึงแจ้งข้อหาขับรถเมื่อใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุ ตามใบสั่งจราจรอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 31 ต.ค.2567
ผู้ขับขี่ยินยอมและชำระค่าปรับ ด้วยการสแกน QR Code เงินค่าปรับ เข้าสู่ระบบ PTTM สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เครื่องมือตรวจจับความเร็วรถเป็นของทางราชการ การประมวลผลและแสดงค่าความเร็วของรถ ผ่านทางหน้าจอ ไม่สามารถแก้ไข/เปลี่ยนแปลง ตัวเลขค่าความเร็วได้
ทั้งนี้ ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ อยู่ในบังคับกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วสำหรับการขับรถในทางเดินรถ พ.ศ.2564 ข้อ 4 การขับรถในทางเดินรถที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาลนคร เขตเทศบาลเมือง หรือเขตชุมชน ให้ใช้อัตราความเร็วต่อไปนี้ (6)..ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งหลังจากที่ทางตำรวจออกมาชี้แจง ทางผู้ประกาศดังก็ได้โพสต์รูปเอกสารชี้แจงพร้อมข้อความว่า "กองบังคับการตำรวจจราจรได้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นดังนี้… ผมเชื่อว่าประชาชนทั่วไปไม่เคยทราบว่าเครื่องตรวจวัดความเร็วของตำรวจจราจรมี 3 ระยะ การออกมาชี้แจงก็ทำให้ประชาชนคลายความสงสัยและเข้าใจการทำงานของตำรวจจราจรมากขึ้น ขอบคุณครับ"