- 21 พ.ย. 2567
ฟ้าผ่าวงการรถ บริษัทรถยักษ์ใหญ่ประกาศ ปลดพนักงานเกือบ 5,000 คน ส่งผลกระทบต่อพนักงานและเศรษฐกิจอย่างหนักอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
“ปลดพนักงานเกือบ 5,000 คน” ฟ้าผ่าวงการรถ อุตสาหกรรมยานยนต์สะเทือน พนักงาน 4,900 คนตกงาน เหตุบริษัทยักษ์ใหญ่ปรับโครงสร้างเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่ดุเดือดและผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ปลดพนักงาน 4,000 คน - เมื่อวันที่ 21 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ฟอร์ด ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่วางแผนที่จะลดพนักงานเกือบ 4,000 ตำแหน่ง ในยุโรปในช่วง 3 ปี ข้างหน้านี้ หรือประมาณ 14% ของพนักงานในภูมิภาค เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ดัง เผชิญกับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ชะลอตัว และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากจีน
บริษัทฟอร์ดในสหรัฐ ระบุเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การปรับลดดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2570 โดยอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือกับสหภาพแรงงาน และจะเน้นไปที่เยอรมนีและสหราชอาณาจักร
ฟอร์ด ออกแถลงการณ์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกยังคงอยู่ในช่วงหยุดชะงัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป ซึ่งอุตสาหกรรมเผชิญกับอุปสรรคด้านการแข่งขัน กฎระเบียบ และเศรษฐกิจอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นายเดฟ จอห์นสตัน รองประธานประจำยุโรปด้านการเปลี่ยนแปลงและความร่วมมือของฟอร์ด กล่าวว่า เป็นการดำเนินการที่ยากลำบาก แต่เราต้องเด็ดขาด เพื่อให้มั่นใจว่าฟอร์ดจะสามารถแข่งขันในยุโรปในอนาคต
ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก อยู่ภายใต้แรงกดดันจากยอดขายที่ซบเซา และการแข่งขันที่รุนแรงจากจีน ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งชาวตะวันตก ซึ่งเคยครองตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ใหญ่สุดในโลก
ธุรกิจรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของฟอร์ด สูญเสียครั้งใหญ่ในยุโรป ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ บริษัทต้องลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลง และปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ปีที่แล้ว บริษัทเปิดเผยว่าจะปลดพนักงานประมาณ 4,900 ตำแหน่ง ในยุโรป ขณะที่วันพุธที่ผ่านมาบริษัทประกาศว่าจะปรับการผลิตรถยนต์รุ่น Explorer และ Capri ใหม่ในยุโรปเพิ่มเติม ส่งผลให้วันทำงานของพนักงานลดน้อยลง
ข่าวการลดพนักงานของ Ford เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ Volkswagen ประกาศว่าพวกเขาจะลดเงินเดือนพนักงานลง 10% เพื่อปกป้องตำแหน่งงานและปกป้องอนาคตของบริษัท ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันรายนี้ วางแผนที่จะปิดโรงงานอย่างน้อย 3 แห่ง ในประเทศบ้านเกิดของตน และเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน เนื่องจากต้องรับมือกับตลาดรถยนต์ที่อ่อนแอในยุโรปและการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในจีนอย่างมาก
ที่มา มติชน