- 04 ธ.ค. 2567
ประชาชนร่วมต้อนรับและรับชมความงดงามของริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวงเป็นการชั่วคราว ฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต50ปี ไทย-จีน
4 ธ.ค.67 พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวงเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
โดยประชาชนร่วมต้อนรับและรับชมความงดงามของริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เส้นทางจากดอนเมือง ผ่านถนนเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์
ขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เคลื่อนขบวนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เพื่อไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ขึ้นประดิษฐานที่มณฑป เพื่อให้ประชาชนชาวไทยและพุทธศาสนิกชนในประเทศไทยได้สักการะเป็นสิริมงคลเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จะเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมสักการะ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันพฤหัสบดี ที่ 5 ธันวาคม 2567 ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. ทั้งนี้รัฐบาลได้จัดเตรียม รถเมล์ ขสมก. และเรือ รับ-ส่ง ขณะที่ เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะและโปสการ์ด พร้อมบทสวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ให้ประชาชน โดยประชาชนไม่ต้องนำมาเอง และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568”
cr.ภาพ สุรสิทธิ์ รัศมีกิตติกุล (Surasit Ratsameekittikul) #NationPhoto