- 06 ธ.ค. 2567
"อดีต สารวัตร บก.ปทส." พ่อเหยื่อ 7 ตร.รุมยำ รับไม่ได้ หลังเห็นภาพวงจรปิด ลั่นไม่ยอมความ แม้มีกระเช้าผลไม้ - ดอกไม้ปริศนา มามอบให้
กรณี 7ตำรวจจราจร รุมยำลูกชาย อดีตตำรวจ ปทส. ล่าสุดทาง พ.ต.ท.ธนชัย เกิดศรี อายุ 60 ปี อดีต สว.กก.2 บก.ปทส.เกษียณราชการเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบิดาของนายธนานพ เกิดศรี อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม กับ พ.ต.ต.กันตพัฒน์ ประเศรษฐสุด สว.(สอบสวน) สน.บางเขน กรณีลูกชายถูก 7 ตำรวจ บก.จร.รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส
พ.ต.ท.ธนชัย หรือ สารวัตรเจี๊ยบ อดีตพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจได้เรียกตนให้พาไปชี้จุดเกิดเหตุ และดูภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ รวมถึงสอบปากคำเพิ่มเติม
ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นขณะเกิดเหตุกลุ่มตำรวจทั้ง 7 นายได้มี การใช้ความรุนแรง และไม่ได้ปฏิบัติตามยุทธวิธีของตำรวจ หลังเกิดเหตุตนไม่ได้รู้สึกโกรธแค้น หรือมีความบาดหมางส่วนตัว แต่เรื่องของคดีความก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
สำหรับอาการของลูกชายขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลวิภาวดีเบื้องต้น ยังมีอาการสาหัส โดยเฉพาะ อาการบาดเจ็บของดวงตาและศีรษะ ซึ่งหลังจากนี้ทางแพทย์จะต้องสแกนสมอง เพื่อตรวจสอบความผิดปกติอย่างละเอียดอีกครั้ง
ในฐานะพี่ตนเคยเป็นอดีตตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรมาก่อนไปอยู่ บก.ปทส. ตามปกติแล้ว ตำรวจมีขั้นตอนในการใช้ยุทธวิธีเพื่อจับผู้ต้องหาด้วยเครื่องพัฒนาการอยู่แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุแบบนี้ และผู้ต้องหามีการต่อสู้หรือขัดขวาง ตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปรุมทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
ซึ่งจะพยายามเลี่ยงการใช้กำลังให้น้อยที่สุด โดยการจับกุมตำรวจจะต้องมีการแสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าทำอะไรผิด จากนั้นก็จะเชิญตัวมาที่ด่าน หรือโรงพักในพื้นที่ เพื่อดำเนินการสอบปากคำและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สารวัตรเจี๊ยบ บอกว่า ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ เพราะมีโซเชียลเป็นหูเป็นตาให้ตลอด พร้อมกับยืนยันเช่นเดียวกับลูกสาวว่า จะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ย ถึงแม้ว่าจะให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงลงมาพูดคุยก็ตาม
ซึ่งเมื่อวานนี้ทางพยาบาลก็แจ้งมาว่ามีตำรวจนำกระเช้ามามอบให้แล้ว 3 กระเช้าแต่ตนก็ไม่รับ เพราะไม่รู้ว่ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไร และไม่รู้ว่าเป็นของหน่วยงานใดเนื่องจากพยาบาลแจ้งมาแค่ว่าเป็นตำรวจเท่านั้น