- 09 ธ.ค. 2567
“วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ตระหนักถึงความสำคัญของชาวนา และข้าวที่เป็นอาหารหลักของคนทั่วโลก เปิดเผย สถิติต่าง ๆ ของ ชาวนาไทย
เพจเฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า ข้าว จัดเป็น 1 ใน 5 พืชเศรษฐกิจ ที่มีความสำคัญต่อมูลค่าเศรษฐกิจไทยมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นมันสำปะหลัง อ้อย ปาล์มน้ำมัน และยางพารา หล่อเลี้ยงชีวิตและมีความผูกพันกับคนไทยมานาน จนมีการกำหนด “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของชาวนา และข้าวที่เป็นอาหารหลักของคนทั่วโลก
ประเทศไทยมีชาวนา 4.6 ล้านครัวเรือน หรือ 20 ล้านคน พื้นที่ปลูกข้าวทั้งประเทศ 65.41 ล้านไร่ ปลูกข้าวได้ประมาณ 30 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็น 20 ล้านตันข้าวสารต่อปี ช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.2567) ไทยส่งออกข้าวได้ 7.45 ล้านตัน ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของโลก สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 172,019 ล้านบาท
สวนทางกับชีวิตจริงชาวนาไทย ที่ทั้งจน ทั้งมีหนี้สิน
ชาวนา 70% เป็นหนี้ 1-3 แสนบาท/ครัวเรือน ทั้งหนี้ ธ.ก.ส.และ หนี้ปุ๋ย หนี้ปัจจัยทางการเกษตร ทั้งที่ไทยส่งออกข้าวอันดับต้นของโลก
การส่งออกข้าวของไทยปัจจุบันเป็นการค้าแบบเสรี ผู้ประกอบการเอกชน สามารถส่งออกข้าวไปยังผู้ซื้อต่างประเทศได้โดยตรง ข้าวที่ปลูกได้ทั้งหมดในประเทศ อยู่กับเอกชน 96% อีก 4% เป็นการส่งออกข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ปัจจุบันมีผู้ส่งออกข้าว 211 ราย มี 10 รายเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ อยู่วงการค้าข้าวมาตั้งแต่ช่วงยุคบุกเบิก มีลูกค้าประจำ มีระบบการขนส่งครบวงจร
จากรวงข้าวบนผืนนา ชาวนาใช้เวลานับปีกับการปลูกข้าว เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ก็เกี่ยวข้าวนำไปขายให้โรงสีหรือท่าข้าวผู้รับซื้อข้าว ประเมินราคาข้าวที่มีความชื้นน้อยที่สุด
ข้าวที่โรงสีรับซื้อไป จะมี “หยง” (ตัวกลาง) รวบรวมข้าวในพื้นที่นั้นๆ ส่งให้ศูนย์กระจายข้าวของเอกชน ซึ่งคือ “ผู้ส่งออกข้าว” จากนั้นผู้ส่งออก จะปรับปรุงคุณภาพข้าว ก่อนจะส่งออกตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ
ชาวนาผู้ปลูกข้าว เป็นเพียงผู้ผลิตเพื่อส่งไม้ต่อเท่านั้น การจะเขยิบสถานะเข้าสู่การเป็นผู้ส่งออก ทำได้ยาก เนื่องจากการส่งออกข้าวมีเงื่อนไขว่า ผู้ส่งออกข้าวต้องมีสต๊อกข้าว 500 ตัน หรือเท่ากับ 20 ตู้คอนเทนเนอร์ ตามประกาศฯ ฉบับที่ 150 ปี 2560 เรื่อง ให้ผู้ประกอบการค้าข้าวขออนุญาต ประกอบการค้าข้าวฯ โดยอำนาจของคณะกรรมการปฏิบัติการตาม พ.ร.บ. การค้าข้าว พ.ศ. 2489
การจะเริ่มเป็นผู้ประกอบการค้าข้าว ยังต้องผ่านขั้นตอนการจดทะเบียนการค้าถึง 5 ขั้นตอน ตั้งแต่จดทะเบียนพาณิชย์ หรือ นิติบุคคล , ขออนุญาตเป็นผู้ประกอบการค้าข้าว , จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกข้าว และหากเป็นการค้าข้าวหอมมะลิ ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกสินค้ามาตรฐานด้วย จากนั้นต้องจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกในระบบกรมศุลกากร เพื่อออกใบขนข้าว ถือว่ามีขั้นตอนทางเอกสารมากกว่าการเป็นผู้ประกอบการทั่วไป
ด้วยทุนทรัพย์ที่ต้องสต๊อกข้าว หรือต้นทุน ขั้นตอนการจดทะเบียนการค้าข้าว ใครที่จะเข้ามาวงการส่งออกข้าว อาจท้อใจได้
ชาวนา จึงรับหน้าที่เป็นเพียงผู้ส่งไม้ต่อ “ปลูกข้าว - ส่งขาย -เหลือจ่าย- ใช้หนี้” เป็นวัฏจักรแบบนี้เรื่อยไป
ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลมีโยบายเพื่อเพิ่มศักยภาพเกษตรกรและมีมาตรการช่วยเหลือมาโดยตลอด รัฐบาลที่นำโดย “แพทองธาร ชินวัตร” จึงเตรียมปรับทิศทางนโยบายจากเกษตรกรที่มีหน้าที่ผลิต ไปสู่ “โอกาสและมูลค่าเพิ่ม” ทำน้อยแต่ได้มาก ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตต่อไร่ มีตลาดที่แน่นอน
ติดตามพร้อมกันใน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” (2025) Empowering Thais : A Real Possibility) …จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่โอกาสที่ทำได้จริง 12 ธันวาคม 2567 นี้ 10.00 น.เป็นต้นไป