จับ 2ผัวเมียโจรใจบาป ปลอมเพจวัดรับบริจาค กลโกงแสนง่าย โกยเป็นล้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.2บก.สอท.4 ร่วมกันจับกุมตัว นายตะวัน อายุ 31 ปี และน.ส.วรวรรณ อายุ 31 ปี 2 ผัวเมีย หลังเปิดเพจปลอมวัดชักชวนให้ร่วมทำบุญก่อนหอบเงินหนี โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ท อ.เมือง จ.ตาก  สืบเนื่องจากช่วงเดือนตุลาคมเป็นช่วงเทศกาลทำบุญกฐิน ที่ประชาชนคนไทยนิยมทำบุญใหญ่กันทั่วประเทศมีกลุ่มคนร้ายหากินกับความศรัทธาของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบเฟซบุ๊ค ธรรมะไร่เชิญตะวัน และเพจเรารักการทำบุญ ได้โพสภาพเชิญชวนทำบุญกฐินสามัคคี ณ วัดดงยางเหนือ อ.พบพระ จ.ตาก

ซึ่งทั้ง 2 เพจ มีข้อความเชิญชวนบริจาคที่เหมือนกัน และมีประชาชนกดถูกใจและสนใจร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก แต่มีคอมเม้นต์บางข้อความที่แสดงความไม่พอใจว่าโพสต์นี้ “มันหลอกชาวบ้านอย่าไปเชื่อ” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนพบว่ายังมีโพสต์เกี่ยวกับการขอให้ช่วยกันบริจาคเนื่องจากมีพระป่วยรถล้มบาดเจ็บและมีรูปพระที่นอนบนเตียงใน รพ.มาโชว์ มีคนร่วมบริจาคจำนวนมาก ด้วยความสงสารพบว่าบัญชีที่รับบริจาค เป็นคนละธนาคารกัน แต่ชื่อเป็นบุคคลๆเดียวกันมียอดเงินทำบุญ ตลอดช่วงเวลา 4-5 เดือน รวมกว่าล้านบาท

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามไปวัดดังกล่าวซึ่งอยู่ที่จังหวัดตาก แต่ปรากฎว่าไมได้ มีการเปิดรับบริจาคใดๆทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานและจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้

จากการสอบสวนนายตะวันให้การยอมรับว่า ได้ทำการฉ้อโกงจริง โดย ตอนแรกคิดว่าจะทำบุญจริงแต่พอมียอดเงินเข้ามาเยอะจึงอดใจไม่ไหวเพราะตนเองภาระเยอะ ผ่อนรถหลายคัน ลูกหลายคน ตนเองผีพนันเข้าสิงติดพนันออนไลน์ เงินที่ได้มาทั้งหมดไปเล่นหมดเลย ทุกวันนี้ต้องมาเช่ารีสอร์ท อยู่อย่างหลบๆซ่อนๆเพราะมีปากเสียงกับญาติเนื่องจากโดนด่าว่า ไปโกงเขาระวังจะติดคุก จนตัวเองทนไม่ไหวอยู่บ้านไม่ได้ต้องแยกตัวออกมา

ส่วนกลโกงก็แสนจะง่ายโดยจะไป ก๊อบปี้รูปพระป่วย รูปโปสเตอร์กฐินทำบุญ มาโพสต์เรียกความศรัทธาและความสงสารเพราะรู้ว่าคนไทยเชื่อง่าย

ส่วนน.ส.วรวรรณ ให้การปฏิเสธ ว่าตนไม่ได้รู้เรื่องในการโกงนี้เลยเลี้ยงลูกอย่างเดียวแต่เงินที่สามีโอนมาให้ในบัญชีก็ร่วมกันใช้จ่ายภายในครอบครัวจริง แต่ในที่สุดก็ถูกผลกรรมที่ทำไว้ตามสนอง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับจนได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกก.2บก.สอท.4 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป