โดนแล้ว "จ่าตำรวจ" เมากร่าง ยิงปืนกลางทองหล่อ สั่งลงทัณฑ์สถานหนัก

สายตรวจทองหล่อ รวบจ่าตำรวจ สน.เดียวกัน เมายิงปืนขึ้นฟ้า หน้าอาคารจอดรถกลางซอยทองหล่อ ล่าสุดตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ลงทัณฑ์สถานหนัก

เมื่อเวลา 02.55 น.วันที่ 15 ธ.ค. 2567 พ.ต.ท. สิทธิชัย จุมพรม.สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุชายยิงปืนขึ้นฟ้า บริเวณลานจอดรถอาคารเท็น ซอยเอกมัย 5- ทองหล่อ10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ พบผู้ก่อเหตุเป็น จ่าตำรวจ สน.เดียวกัน

 

ไม่เอาไว้ จ่าตำรวจ เมากร่าง ยิงปืนกลางทองหล่อ สั่งลงทัณฑ์สถานหนัก

ไม่เอาไว้ จ่าตำรวจ เมากร่าง ยิงปืนกลางทองหล่อ สั่งลงทัณฑ์สถานหนัก

 

ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นลานจอดรถของอาคารใกล้สถานบันเทิงชื่อดัง พบผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมา คือ จ.ส.ต.มนตรี มีเดช ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ อยู่ในอาการมึนเมา ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยิงขึ้นฟ้า 1 นัด และพูดจาโวยวายชักปืนจ่อ ชายอีกคนที่พยายามห้ามปราม ก่อนเดินหลบหนี กระทั่งจ.ส.ต.อรัญ สุรมณี ผบ.หมู่(ป.)สน.ทองหล่อ สายตรวจชุดเคลื่อนเร็ว สน.ทองหล่อ ติดตามไปจับกุมได้ 

จากการตรวจสอบพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ปลอก โดยจับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธปืนยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น 320 มีทะเบียนปืน กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 13 นัด บรรจุอยู่ในซองบรรจุกระสุน 1 ซอง และซองพกพาอาวุธปืนพกซ่อนแบบหนังสีดำ (ใช้สำหรับซุกซ่อนอาวุธปืนและกระสุน) จึงควบคุมตัวไปสน.ทองหล่อ

 

ไม่เอาไว้ จ่าตำรวจ เมากร่าง ยิงปืนกลางทองหล่อ สั่งลงทัณฑ์สถานหนัก

 

โดยพยานใกล้เคียง เล่าว่า ตนได้ยินเสียงโวยวายบริเวณหน้าอาคารดังกล่าวจึงได้ออกมาตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมาซึ่งน่าจะดื่มมาจากร้านอื่นแล้ว และใช้อาวุธปืนชี้มายังตน และได้ต่อว่าด่าทอตน และไม่ทราบสาเหตุว่าจาก ผู้ก่อเหตุเป็นอะไร จึงได้บอกให้ใจเย็น แต่ยังคงโวยวายและชักปืนออกมายิงบริเวณหน้าทางเข้าลานจอดรถอาคารเท็น จากนั้นได้วิ่งกลับไปยังรถจักรยานยนต์ของตนเอง ก่อนถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวไว้ได้

ไม่เอาไว้ จ่าตำรวจ เมากร่าง ยิงปืนกลางทองหล่อ สั่งลงทัณฑ์สถานหนัก

 

พ.ต.อ. พันษา กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนแจ้งข้อหา

1.มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านฯ โดยไม่มีเหตุอันควร

3.ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านฯ

ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่าฯ หรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวนและการรวบรวมพยานหลักฐาน และได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงลงทัณฑ์สถานหนัก เพื่อมิให้ตำรวจคนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง โดยมี พ.ต.ท.ณัฐกิตติ์ จอกโคกสูง รอง.ผกก.ป.สน.ทองหล่อ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการ (สน.)ในการพิจารณาและให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาในระดับสูงพิจารณาต่อไป

ซึ่งผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ในร่างกายพบว่ามีปริมาณ 136 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ และได้สั่งเก็บอาวุธปืนประจำตัวไว้ ซึ่งพบว่ามีอยู่ 2 กระบอก โดยในชั้นนี้ทราบว่าเจ้าตัวได้ให้ญาติมาขอยื่นประกันตัวหรือขอปล่อยตัวชั่วคราวออกไป โดยจะประกันตัวออกไปและใช้หลักประกันขั้นสูง (150,000 บาท) ซึ่งระหว่างนี้ยังคงถูกคุมขังใน สน.ทองหล่อ เพื่อรอญาติเข้ามาขอประกันตัวออกไป จากการตรวจสอบประวัติพบว่าตำรวจนายนี้เคยประจำอยู่ที่ กองกำกับการศูนย์รวมข่าว บก.สปพ.(191) และย้ายมาประจำที่ สน.ทองหล่อ ได้ประมาณ 2 ปี 

 

ไม่เอาไว้ จ่าตำรวจ เมากร่าง ยิงปืนกลางทองหล่อ สั่งลงทัณฑ์สถานหนัก

 

อย่างไรก็ตามได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงลงทัณฑ์สถานหนัก เพื่อมิให้ตำรวจอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ตำรวจต้องมีวินัย ข้าราชการตำรวจที่ผิดวินัยร้ายแรงไม่ควรอยู่ในราชการ ต้องลงโทษสถานหนัก คือปลดออก หรือไล่ออก โดยพ.ต.อ.พันษา ได้กล่าวขอโทษประชาชน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลของสน.ทองหล่อ ได้ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น