"โบคาไวรัส" ระบาดในเด็ก หมอเตือน ไข้ น้ำมูก ไอมากลงปอดได้

"โบคาไวรัส" (Bocavirus) ระบาดในเด็ก หมอเตือน ไข้ น้ำมูก ไอมากลงปอดได้ แนะผู้ปกครองเฝ้าระวังป้องกันลูกหลานจากไวรัส

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 67 ทางด้านเฟซบุ๊กเพจ หมอเมธาวี คลินิกเด็กอุบลราชธานี เตือนเกี่ยวกับเชื้อไวรัสที่ระบาดในเด็กตอนนี้ โดยระบุว่า "#Bocavirus (โบคา) ระบาดในเด็ก เชื้อไวรัสไข้ ไอ น้ำมูก อาจไอมากจนลงปอดได้ ดูแลสุขภาพกันนะคะ" ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมียอดแชร์ถึง 4.3 พันครั้ง

\"โบคาไวรัส\" ระบาดในเด็ก หมอเตือน ไข้ น้ำมูก ไอมากลงปอดได้

โดยทาง TikTok @userdrkittisakclinic คลินิกเด็ก นพ.กิตติศักดิ์ สาขาควนขนุนและพัทลุง เปิดเผยว่า "โบคาไวรัส" เป็นเชื้อที่ไม่คุ้นหูแต่ว่ามีมาตั้งนานแล้ว เป็นเชื้อตามฤดูกาล และที่เชื้อตัวนี้กำลังดังเพราะ เวลาเราไป swab จมูก ในเคสที่มีความรุนแรง เช่น ปอดบวมรุนแรง ใส่ท่อช่วยหายใจหรือว่าอยู่ ICU ช่วงนี้ช่วงปลายปีจะเจอโบคาไวรัสมากขึ้น

\"โบคาไวรัส\" ระบาดในเด็ก หมอเตือน ไข้ น้ำมูก ไอมากลงปอดได้

สำหรับการรักษา ส่วนใหญ่ถ้าเป็นตอนอาการไม่มาก ก็รักษาตามอาการ ไม่มียาฆ่าจำเพาะ เช่น กินยาแก้ไข้ กินยาละลายเสมหะ แต่เคสที่กินยาลดน้ำมูก หรือยาที่ทำให้เสมหะเหนียวจะยิ่งทำให้อาการแย่กว่าเดิม ดังนั้นไม่แนะนำ หากท่านสงสัยลูกจะเป็นโบคาไวรัสหรือไม่ สอบถามไปยังคลินิกหรือสถานบริการใกล้บ้าน

ลักษณะสำคัญของโบคาไวรัส

  1. พบได้บ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เนื่องจากภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่สมบูรณ์
  2. พบการติดเชื้อในคนทั่วโลก และมักพบในตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับโรคทางเดินหายใจ เช่น เสมหะ น้ำมูก หรืออุจจาระ
  3. การแพร่กระจาย ผ่านทางสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย เสมหะ หรือการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนไวรัส

อาการของการติดเชื้อ

  • ไข้
  • ไอ
  • หายใจลำบาก
  • น้ำมูกไหล
  • ในบางกรณีอาจมีอาการท้องเสีย อาเจียน หรือปวดท้องร่วมด้วย

โบคาไวรัส มีความเชื่อมโยงกับโรคปอดบวม โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ การติดเชื้อไวรัสนี้สามารถทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นปอดบวมได้

การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสที่จำเพาะสำหรับโบคาไวรัส การรักษาเน้นที่การบรรเทาอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ การให้น้ำเกลือในกรณีขาดน้ำ หรือการช่วยหายใจในกรณีรุนแรง