- 18 ธ.ค. 2567
เพจดังแฉแม่หัวหมอ ใช้บัตรทองพาลูกตระเวนขอยาพ่นจมูก เอามาขายต่อออนไลน์ ขายกันฉ่ำมากฟันกำไรเละ ลั่นระบบจะพังพินาศไวขึ้น ล่าสุดสปสช. เร่งตรวจสอบแล้ว
จากกรณีที่เพจดังอย่าง Drama-addict ได้เปิดเผยข้อมูลว่ามีคนตระเวนขอยาภูมิแพ้ เพื่อนำไปโพสต์ขาย บิดเบือนระบบ 30 บาทรักษาทุกโรค ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูง เตือนระบบจะพังพินาศไวขึ้น โดยระบุว่า "แอดมินกลุ่มต่างๆ พึงระวัง พ่อแม่หัวหมอ พาลูกตระเวนไปตาม รพ ต่างๆ บอกภูมิแพ้กำเริบ หมอจ่ายยาพ่นจมูกให้ ตระเวนทำหลายที่ ได้ยามาเป็นลัง แล้วเอาไปขายตามกลุ่มในเฟซ ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่เงินที่จ่ายยาคือภาษีประชาชน
การกระทำแบบนี้ ผิดกฏหมาย เป็นการบิดเบือนระบบ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้ค่าใช้จ่ายบานเบอะ เงินรั่วไปสู่กระเป๋าพ่อแม่หัวหมอพวกนี้ และระบบจะพังพินาศไวขึ้น ซึ่งการทำแบบนี้ผิดกฏหมาย เคยมีเคสถูกฟ้องเข้าคุกมาแล้ว ขอให้หยุดทำ แอดมินกลุ่มต่างๆพบเห็นเมื่อไหร่ ขอให้ช่วยกันลบ และแคปข้อมูลส่ง จนท ตำรวจทันที"
ก่อนที่ต่อมาทางด้านเพจ Remrin จากเพจ Drama-addict ขยายความให้อีกที
สรุปคือยาพ่นตัวนี้แพงครับ หาค่อนข้างยาก แต่ถ้าจำเป็นก็เบิกได้ เลยมีแม่เด็กหัวหมอ คือลูกเป็นภูมิแพ้จริง ๆ แหละ แต่ลูกได้ยามากพอแล้ว แม่ก็อาศัยช่องโหว่ อย่างตอนนี้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท รักษาทุกที่ด้วย แม่ก็พาลูกเข้ารพ.ใหญ่นู่นนี้ แล้วก็เบิกยามา ยิ่งรพ.บางแห่งเบิกยาได้ที 6 เดือน ก็ 6 กล่อง
(แต่ถ้ารพ.ไม่ตรงสิทธิอาจจะเบิกฟรีได้ครั้งละไม่เกิน 1200 บาท) ก็เบิกหลาย ๆ ที่ รวม ๆ กัน เดือนนึงได้เป็นลังเลย
(สิทธิกรมบัญชีกลางก็มีน่าจะมีทำนะ แต่เห็นว่าตรวจประวัติการเบิกยาละเอียดกว่า เลยไม่แน่ใจว่ามีหลุดมาทำแบบนี้ได้ไหม)
แล้วแม่หัวหมอพวกนี้ ก็เอายาไปแกะฉลากออกหมด แล้วประกาศขายต่อตามกลุ่มแม่และเด็ก หรือที่เจอบ่อยสุดคือกลุ่มภูมิแพ้ครับ นี่แอบเข้าไปส่องนี่ ขายกันฉ่ำมากฟันกำไรเละเทะเลย
นี่เป็นอีกช่องโหว่นึงแหละ ที่ทำให้สิทธิบัตรทองหรือ 30 บาท ที่แบกภาระค่าใช้จ่ายหนักมาก ๆ อยู่แล้ว ต้องพังพินาศหนักขึ้นไปอีก
ส่วนแม่นั้น สมมติเดือนนึงเบิกมาได้ 30 กล่อง ขายกล่องละ 400 ก็ 12000 บาท แล้วจ้า
แล้วจะบอกว่าพวกนี้ไปทีไม่ได้เบิกแค่ตัวนี้ตัวเดียวนะ มียาอื่น ๆ ด้วย เพราะงั้นรายได้อาจจะมากกว่านี้อีก
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวล่าสุด ทางด้านเฟซบุ๊ก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เตรียมรวบรวมข้อมูล เร่งตรวจสอบด่วน โดยระบุว่า
สปสช. เร่งตรวจสอบ “แม่พาลูกตระเวนรักษาภูมิแพ้ นำยาพ่นมาขายออนไลน์ ”
สปสช. เร่งตรวจสอบกรณี “แม่พาลูกตระเวน รพ.รักษาภูมิแพ้ นำยาพ่นมาขายออนไลน์” เตรียมรวบรวมข้อมูล เร่งตรวจสอบด่วน หากมีหลักฐานชัดเจนเป็นการใช้สิทธิบัตรทองเบิกจ่าย จะดำเนินการทางกฎหมายแน่นอน พร้อมระบุเป็นพฤติกรรมทำลายระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เป็นของทุกคน
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดีย กรณีมีคุณแม่นำยาพ่นเพื่อบรรเทาอาการภูมิแพ้และคัดจมูก ซึ่งได้รับการพาลูกเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและนำมาขายทางออนไลน์ โดยระบุถึงการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่นั้น ว่า ขอขอบคุณที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลนี้มาเผยแพร่ และขอเรียนว่าระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นระบบที่ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่เป็นหลักประกันและสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับประชาชน หากเจ็บป่วยไม่ว่าเล็กน้อย หรือป่วยหนัก สามารถเข้าถึงการรักษาได้โดยไม่ต้องมีอุปสรรคทางการเงิน งบประมาณกองทุนทุกบาททุกสตางค์ล้วนมาจากภาษีประชาชน การใช้จ่ายงบประมาณจึงต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนตามที่กฎหมายกำหนด
- การนำยาที่ได้รับจากโรงพยาบาลไปจำหน่ายในเว็บไซต์และกลุ่ม Social Media ตามที่ปรากฎเป็นข่าว หากเป็นเรื่องจริง ถือเป็นเรื่องไม่สมควร เพราะนอกจากจะเป็นการเอาเปรียบผู้ป่วยท่านอื่นแล้ว ยังเป็นเพิ่มภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่จำเป็น อีกทั้งเป็นการกระทำผิดกฎหมายที่ไม่สมควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นนี้ สปสช. จะประสานหน่วยบริการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลและเร่งดำเนินการตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้ โดยเฉพาะการเบิกจ่ายยาพ่นเพื่อบรรเทาอาการภูมิแพ้ที่เป็นข่าว หากพบว่ามีการมารับยาและนำไปจำหน่ายจริง สปสช. จะดำเนินการทางกฎหมายจนถึงที่สุด
รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า ขอเตือนไปยังผู้ที่กระทำพฤติกรรมดังกล่าวหรือผู้ที่จะทำตามแบบอย่าง เพราะนอกจากจะถูกดำเนินการทางกฎหมายแล้ว ยังเป็นผู้ที่บ่อนทำลายต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เป็นหลักประกันสุขภาพของคนไทยทุกคนด้วย ทั้งนี้หากพบข้อมูลใดๆ ขอให้แจ้งมาที่ สปสช. เพื่อที่จะเร่งดำเนินการต่อไป
18 ธันวาคม 2567
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ