โวยรถบรรทุกชุ่ย โยนเชือกไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำแม่เจ็บหนัก ไม่แม้แต่โผล่หน้า

ลูกชายร้อง เพจสายไหมต้องรอด ช่วยเหลือหลังแม่ถูกคนขับรถบรรทุกสุดชุ่ย โยนเชือกรัดของข้ามรถบรรทุกโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำให้เชือกมาเกี่ยวรถ จยย.ของแม่จนล้ม ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกฐานหัวเข่าแตกร้าว ต้องเข้าเฝือก เปลือกตาฉีกเย็บ 4 เข็ม กล้ามเนื้อฟกช้ำทั้งตัว หัวไหลกระแทกพื้นจนแขนยกไม่ขึ้น หลังเกิดเหตุคู่กรณี ไม่สนใจ ไม่เคยติดต่อหรือมาเยี่ยมถามอาการเลยแม้แต่น้อย คดีไม่มีความคืบหน้า 

 

 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 น.ส.จามรี ระรวยชื่น อายุ 47 ปี  หรือ จาม สาวโรงงาน เข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกคนขับรถบรรทุกสุดชุ่ย โยนเชือกรัดของข้ามรถบรรทุก ทำให้เชือกมาเกี่ยวรถจักรยานยนต์ล้ม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไร้การเยียวยาคดีไม่มีความคืบหน้า

น.ส.จามรี  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. เวลาประมาณ 15.00 น. ตนเพิ่งเลิกงาน ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ทันทีที่มาถึงบริเวณถนนนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เห็นว่ามีรถบรรทุกพ่วงขนาด 18 ล้อ จอดอยู่ริมถนน ตนก็ขี่เลี่ยงออกมา แต่จู่ ๆ คนขับรถก็โยนเชือกรัดของข้ามมาอีกฝั่ง ทำให้เชือกนั้นเกี่ยวเข้าที่บริเวณท้ายรถจักรยานยนต์ ทำให้ตนเสียหลักรถล้ม หน้ากระแทกพื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ 

ชาวบ้านแถวนั้นจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มารับตนไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้เคียง โดยแพทย์ระบุว่า มีแผลฉีกขาบริเวณเปลือกตาข้างขวา ใบหน้าฟกช้ำบวมเขียว กระดูกหัวเข่าร้าวต้องเข้าเฝือก ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่สามารถไปทำงานได้ และสูญเสียรายได้ เพราะตนได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน วันไหนไม่ได้ไปทำงานก็จะไม่ได้รับค่าจ้าง 

 

ส่วนคู่กรณี ก็ปัดความรับผิดชอบ ซึ่งคนขับรถบรรทุก ก็โยนให้บริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบเท่านั้น โดยทางประกันแจ้งเพียงว่าต้องรอให้ตนรักษาหายดีแล้วค่อยเอาใบเสร็จทุกอย่างมาให้ ถึงจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ได้ แต่ถ้าจะเอาตอนนี้ก็จะได้รับเงินเพียงแค่ไม่เกิน 5,000 บาทเท่านั้น ซึ่งตอนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนต้องสำรองค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างเช่น ค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ ค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล รวมแล้วกว่าหลายพันบาท จึงอยากให้คู่กรณีมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ 

 

 

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะประสานไปยัง ผกก.สภ.บางปะอิน เพื่อเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนเรียกคู่กรณีมาพูดคุย ให้เยียวยาค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น เพราะผู้เสียหายได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน ผู้เสียหายมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้ขาดรายได้ไปอย่างมาก