- 08 ม.ค. 2568
จับได้แล้ว จ่าเอ็ม มือยิง Lim Kimya อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตกลางกรุงฯ หนีไปจนมุมที่พระตะบอง กัมพูชา เตรียมนำตัวไปกรุงพนมเปญ กัมพูชา ก่อนกลับมาไทย
กรณี นาย ลิม คิมยา (Mr.Lim Kimya) อายุ 73 ปี อดีตส.ส.ฝ่ายค้าน และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง จากพรรค Cambodia National Rescu ถูกลอบยิงเสียชีวิต บริเวณวงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ถนนบวรนิเวศน์ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. ซึ่งมือปืนก็คือ จ่าเอ็ม พ.จ.อ.เอกลักษณ์ แพน้อย โดยมีรายงานว่าหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ ไปยังกัมพูชาแล้ว
ล่าสุด 8 ม.ค.68 สื่อกัมพูชา รายงานยืนยันว่า ตำรวจ พระตะบอง จับกุม จ่าเอ็ม ได้แล้ว ในพื้นที่ อ.โมงฤไซ จ.พระตะบอง ขณะนั่งรถยนต์มุ่งหน้าไป พนมเปญ โดย จุดจับกุม ห่างจาก ด่านบ้านเขาดิน จว.สระแก้ว ประมาณ 150 กม.
ซึ่งก็ได้ประสานกับทางการไทย โดยมีชุดสืบสวนนครบาล นำโดยสารวัตรแจ๊ะ , ตำรวจภูธรภาค2 และกองปราบปราม เดินทางไปเพื่อประสานการรับตัว จ่าเอ็ม กองเรือ กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย โดย เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะไล่ล่าติดตามไป กระทั่งไล่ล่าคนร้ายไปถึงบริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา (เขาดิน-สำเภารูน) ไปเมื่อประมาณ เที่ยงคืนที่ผ่านมานี้
ชุดสืบสวนคลาดกับคนร้ายโดยสามารถหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติไปได้อย่างฉิวเฉียด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดทางประสานงานกับ ผกก.สถานีตำรวจ สำเภารูน ประเทศกัมพูชา ก่อนส่งชุดสืบนครบาลข้ามแดนไปร่วมไล่ล่าติดตามคนร้าย
โดยสืบทราบว่าได้แลกเงินจำนวน 4,000 บาท ณ ร้านรับแลกเงินริมชายแดน จากนั้นได้เดินทางขึ้นรถโดยสารเพื่อเข้าไปใจกลางประเทศกัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบก่อนไล่ล่าติดตามไปจนกระทั่งจับได้ขณะที่คนร้ายแวะพักทานอาหารใน ต.ปเรยสวย อ.โมงรึไทร จ.พระตะบอง เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 67 เวลา 16:30 น.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา และชุดสืบนครบาล ได้นำตัวผู้ต้องหาไปที่ กองบังคับการจังหวัดพระตะบอง ก่อนจะส่งตัวไปที่ กองบัญชาการความมั่นคงภายใน จ.พนมเปญ เพื่อซักถามเพิ่มเติมต่อไป
- ประวัติ จ่าเอ็ม พ.จ.อ.เอกลักษณ์ แพน้อย มือยิง
เคยรับราชการเป็นทหารเรือ สังกัด ตำแหน่งช่าง แผนกเครื่องมือเดินเรือ กองโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ กรมอิเล็กทรอนิกส์ ทหารเรือ’ และตำแหน่งในยามสงคราม คือ ผู้บังคับหมู่ปืนใหญ่ที่ 8 ส่วนยิง จบจาก โรงเรียนจ่าทหารเรือ
เคยกระทำความผิดและถูกลงทัณฑ์ทางวินัยขัง 2 ครั้ง เมื่อปี 2564 และ ปี 2565 จากนั้นมาถึง ปี 2566 มีความผิดฐานขาดราชการ ทางกองทัพเรือ จึงพิจารณาให้ออกจากราชการ