แฉฉาว แก๊งจีนเทาขายฝันเด็กไทยไปเป็นนักฟุตบอล สุดท้ายส่งปอยเปต

วันที่ 10 มกราคม 2568 นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือปูอัด สส. พรรคไทยก้าวหน้า ได้เดินทางมายัง สน.บางมด เพื่อติดตามความคืบหน้าในกรณีที่มีผู้เสียหายถูกจีนเทาหลอกลวงไปทำงานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา พร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เมื่อวานนี้มีประชาชนในพื้นที่มาขอความช่วยเหลือกับตนว่า น้องเอ (นามสมมติ) ลูกชายของเขาถูกพาไปทำงานที่ปอยเปต หลายวันแล้วไม่สามารถติดต่อได้ ในระหว่างการให้ข้อมูล มีบางช่วงที่น้องเอผู้เสียหายแอบโทรมาได้

 

 

น้องเอเล่าว่า อยู่ที่นั่นแย่เลย ส่วนการเป็นอยู่ก็มีคนเอาอาหารมาให้ จากนั้นก็ได้พาเดินดูที่พัก เป็นลักษณะเป็นตึก 18 ชั้น และก็ยังเล่าอีกว่า ที่นั่นมีคนไทยคนอื่นๆพักอาศัยอยู่ด้วย มีทั้งคนที่ตั้งใจมาทำงาน และคนที่โดนหลอกมา ตอนนี้คิดถึงบ้าน อยากกลับบ้าน

ซึ่ง ส.ส.ปูอัด เล่าว่า ในเริ่มแรกเลย มีการชวนกันเป็นทอดๆจากกลุ่มเพื่อนที่เตะบอลด้วยกันว่า จะมีคนชวนไปเตะบอล และทำงานที่ต่างประเทศ เงินดี ทั้งหมด 5 คน (รวมน้องเอ) ก็ตกลงปลงใจไปด้วยกัน จากนั้นมีรถตู้มารับน้องเอในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 จากซอยสุขสวัสดิ์ 14

น้องเอเล่าว่า ในวันแรกที่ไปก็มีการไปฝึกซ้อมฟุตบอลจริง ที่จังหวัดหนึ่งในประเทศไทย หลังจากซ้อมเสร็จ รถตู้พาไปที่ๆหนึ่ง ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็น ปอยเปต จากนั้นได้มีคนจีนมาบอกกับกลุ่มน้องเอว่าจะให้ทำงาน เตรียมตัวไปเปิดบัญชีเร็วๆนี้

ในขณะนี้ น้องเอกับเพื่อนอีก 4 คนที่มาด้วยกัน ถูกจับแยก และไม่สามารถติดต่อกันได้ ส่วนตัวน้องเอ ยังคงปลอดภัย ไม่ได้มีการถูกทำร้ายร่างกาย

สส.ปูอัด ยังระบุเพิ่มเติมว่า ฝ่ายจีนเทา รู้ข้อมูลทุกอย่าง รู้กระทั่งเด็กคนนี้ชอบอะไร และเอาสิ่งที่เขารักมาโน้มน้าวจิตใจ บวกกับเม็ดเงินที่จะได้ในอนาคต 

 

 

หลังจากวันที่ 31 ธ.ค. 2567 ก็ไม่สามารถติดต่อน้องเอได้ จนวันที่ 4 ม.ค. 2568 น้องเอติดต่อกับแม่ บอกว่า จะไปทำงานกับเพื่อนอีกจังหวัดหนึ่ง และติดต่อได้อีกครั้งวันที่ 9 ม.ค. 2568 วันที่มั่นใจแล้วว่าถูกหลอกไปทำงานที่ปอยเปต 

 

ตอนนี้ได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือแล้ว และที่นั่นไม่ได้มีคนไทยแค่คนเดียว เชื่อว่าถ้าไปช่วยเหลือก็มีเด็กอีกหลายคนที่อยากกลับบ้าน "อยู่ในเรือนจำยังรู้วันออก แต่น้องที่อยู่ที่นั่น ไม่มีตารางเวลาออก" 

ในส่วนของตำรวจ พ.ต.อ.สนชัย พูนผล ผกก.สน.บางมด ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีขบวนการนี้อยู่จริง แล้วตอนนี้พอทราบข้อมูลแล้วว่าตัวผู้เสียหายอยู่ที่บริเวณใด คาดว่าจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ และในการข้ามประเทศไป ไม่ได้ผ่านทาง ตม. เป็นการไปทางช่องทางตามธรรมชาติ ในตอนนี้ทางตำรวจยังติดต่อสื่อสารกับตัวผู้เสียหายได้อยู่ ขอยืนยันว่าจะพยายามติดตามอย่างใกล้ชิด และอยากฝากไปถึงประชาชนทุกคนว่า "งานสบาย รายได้ดี ไม่มีอยู่จริง ส่วนมากจะเป็นการหลอกลวงเสียมากกว่า"