บุกจับนายอำเภอเหนือคลอง รีดเงินผู้รับเหมา โครงการซ่อมที่พักข้าราชการ

บิ๊กเต่านำทีมจับ นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เรียกรับเงินผู้รับเหมา 5 หมื่นบาท โครงการซ่อมแซมที่พักข้าราชการ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) มอบหมายให้ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. และ นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการฯ มอบหมายให้ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการฯ และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต รวบ นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เรียกรับเงินผู้รับเหมา 5 หมื่นบาท โครงการซ่อมแซมที่พักข้าราชการ 

บุกจับนายอำเภอเหนือคลอง รีดเงินผู้รับเหมา โครงการซ่อมที่พักข้าราชการ

 

บุกจับนายอำเภอเหนือคลอง รีดเงินผู้รับเหมา โครงการซ่อมที่พักข้าราชการ

 

ร่วมกันจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหา

1. นายวิชญุตม์ อายุ 47 ปี นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 1/68 ลงวันที่ 8 ม.ค.68 ในความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,  เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต "

ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  148 , 157  และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  พ.ศ. 2561   มาตรา 172

บุกจับนายอำเภอเหนือคลอง รีดเงินผู้รับเหมา โครงการซ่อมที่พักข้าราชการ

 

2. นางอุไรวรรณ อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงานฯ อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 2/68 ลงวันที่ 8 ม.ค.68 ในความผิดฐาน "สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจ ให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต"  ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 , 157  และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  พ.ศ. 2561   มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
 
พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ทำการสืบสวนสอบสวน กรณีผู้เสียหายในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจของบริษัทแห่งหนึ่งได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากถูกนายอำเภอเหนือคลอง เรียก รับเงิน ที่ผู้เสียหายได้รับจากการรับเหมาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการอำเภอเหนือคลอง จึงเข้าพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้นำผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ นายอำเภอเหนือคลองคนดังกล่าว

โดยเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2567 ผู้เสียหายได้ทำสัญญาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการ ราคาจ้างเหมา 500,000 บาท  โดยมีนายอำเภอเหนือคลอง ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้ลงนามว่าจ้างโครงการ ต่อมาช่วงต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ.2567 นายวิชญุตม์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับงานที่กำลังก่อสร้างตามสัญญาจ้างกับผู้เสียหายและแจ้งว่า

"หากเสร็จงานแล้ว ผู้เสียหายต้องให้นาย 50,000 นะ"

 

บุกจับนายอำเภอเหนือคลอง รีดเงินผู้รับเหมา โครงการซ่อมที่พักข้าราชการ

 

หลังจากนั้นเมื่อผู้เสียหายทำการก่อสร้างโครงการตามสัญญาเสร็จสิ้นจนมีการตรวจรับงานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา และทางผู้เสียหายได้รับเงินค่าจ้างครบถ้วนแล้ว ต่อมาช่วงประมาณปลายเดือน พฤศจิกายน 2567 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลโคกยาง ได้โทรศัพท์มาบอกผู้เสียหายว่า นายวิชญุตม์ (ผู้ต้องหาที่ 1) ฝากบอกให้ผู้เสียหายนำเงินไปให้ นายวิชญุตม์ (ผู้ต้องหาที่ 1) หากไม่นำไปให้ ให้ผู้เสียหายมาเอาหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อผู้เสียหายทราบเรื่องดังกล่าว ผู้เสียหายจึงโทรศัพท์ไปสอบถามนางอุไรวรรณ (ผู้ต้องหาที่ 2) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ทำหน้าที่หน้าห้องปลัดอาวุโส อำเภอเหนือคลอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินดังกล่าว แต่เมื่อสอบถามไป ก็กลับไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน  ผู้เสียหายจึงไปหาผู้ต้องหาที่ 1 ตามกำหนดนัด แต่ไม่พบ โดยระหว่างนั้นก็มีบุคคลโทรศัพท์มาหาผู้เสียหายแจ้งว่าผู้ต้องหาที่ 1 ให้นำเงินไปให้จำนวนหลายครั้ง ผู้เสียหายจึงไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นและขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกระบี่ จากนั้นได้ร่วมกันวางแผนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการกระทำผิดของ นายวิชญุตม์ โดยวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินบางส่วน จำนวน 10,000 บาท ไปมอบให้กับนายวิชญุตม์ แต่นายวิชญุตม์ ไม่ยอมให้ผู้เสียหายเข้าพบ และบอกหน้าห้องไว้ว่าให้ฝากเงินไว้กับ นางอุไรวรรณ

 

บุกจับนายอำเภอเหนือคลอง รีดเงินผู้รับเหมา โครงการซ่อมที่พักข้าราชการ

 

ซึ่งเมื่อผู้เสียหายเห็นว่าไม่สามารถเข้าพบนายวิชญุตม์ เพื่อมอบเงินให้ตามแผนที่วางเอาไว้ได้ ผู้เสียหายจึงเข้าไปนั่งพูดคุยเรื่องเงินที่จะนำมามอบให้กับนายวิชญุตม์ ต่อหน้านายจีระศักดิ์ ปลัดอาวุโส และนางอุไรวรรณ พร้อมกับนำเงินที่จัดเตรียมไว้นำออกมาวางไว้กลางโต๊ะห้องรับแขกภายในห้องปลัดอาวุโส 

จากนั้นนางอุไรวรรณ จะหยิบเอาเงินบนโต๊ะไป และในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นผู้เสียหายได้โทรศัพท์ถึงนางอุไรวรรณ สอบถามเรื่องเงินที่มอบให้ โดยได้รับการยืนยันว่าส่งมอบเงินให้กับนายวิชญุตม์ แล้ว ผู้เสียหายจึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับนายวิชญุตม์ และนางอุไรวรรณ ตามกฎหมายจนหมายคดีจะถึงที่สุด

ซึ่งการกระทำนี้ ผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่อำเภอคลองเหนือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย จนวันนี้ขณะที่ผู้เสียหายนำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปมอบให้แก่ผู้ต้องหาภายในห้องทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. จึงได้นำหมายจับเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา และดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา