- 10 ม.ค. 2568
ต้องให้นาย 50,000 นะ! มหาดไทย สั่งย้าย นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ออกจากพื้นที่ทันที เซ่นเรียกรับเงินค่าตรวจงาน 5 หมื่นบาท
กรณีตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกันจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหา นายวิชญุตม์ฯ อายุ 47 ปี นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 1/68 ลงวันที่ 8 ม.ค.68 ใ และ นางอุไรวรรณฯ อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงานฯ อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ จากการเรียกรับเงินค่าตรวจงาน 5 หมื่นบาท
พฤติการณ์ ผู้เสียหายในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจของบริษัทแห่งหนึ่งได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากถูกนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงิน ที่ผู้เสียหายได้รับจากการรับเหมาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการอำเภอเหนือคลอง จึงเข้าพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้นำผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ นายอำเภอเหนือคลองคนดังกล่าว
โดยเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2567 ผู้เสียหายได้ทำสัญญาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการ ราคาจ้างเหมา 500,000 บาท โดยมีนายอำเภอเหนือคลอง ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้ลงนามว่าจ้างโครงการ ต่อมาช่วงต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ.2567
นายวิชญุตม์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับงานที่กำลังก่อสร้างตามสัญญาจ้างกับผู้เสียหายและแจ้งว่า “หากเสร็จงานแล้ว ผู้เสียหายต้องให้นาย 50,000 นะ”
หลังจากนั้นเมื่อผู้เสียหายทำการก่อสร้างโครงการตามสัญญาเสร็จสิ้นจนมีการตรวจรับงานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา และทางผู้เสียหายได้รับเงินค่าจ้างครบถ้วนแล้ว ต่อมาช่วงประมาณปลายเดือน พฤศจิกายน 2567 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลโคกยาง ได้โทรศัพท์มาบอกผู้เสียหายว่า นายวิชญุตม์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ฝากบอกให้ผู้เสียหายนำเงินไปให้ นายวิชญุตม์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) หากไม่นำไปให้ ให้ผู้เสียหายมาเอาหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อผู้เสียหายทราบเรื่องดังกล่าว
ผู้เสียหายจึงโทรศัพท์ไปสอบถามนางอุไรวรรณฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงานฯ ทำหน้าที่หน้าห้องปลัดอาวุโส อำเภอเหนือคลอง มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินดังกล่าว
แต่เมื่อสอบถามไป ก็กลับไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ผู้เสียหายจึงไปหาผู้ต้องหาที่ 1 ตามกำหนดนัด แต่ไม่พบ โดยระหว่างนั้นก็มีบุคคลโทรศัพท์มาหาผู้เสียหายแจ้งว่าผู้ต้องหาที่ 1 ให้นำเงินไปให้จำนวนหลายครั้ง ผู้เสียหายจึงไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นและขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกระบี่ จากนั้นได้ร่วมกันวางแผนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการกระทำผิดของ นายวิชญุตม์ฯ โดยวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินบางส่วน จำนวน 10000 บาท ไปมอบให้กับนายวิชญุตม์ฯ แต่นายวิชญุตม์ฯ ไม่ยอมให้ผู้เสียหายเข้าพบ และบอกหน้าห้องไว้ว่าให้ฝากเงินไว้กับ นางอุไรวรรณฯ
ซึ่งเมื่อผู้เสียหายเห็นว่าไม่สามารถเข้าพบนายวิชญุตม์ฯ เพื่อมอบเงินให้ตามแผนที่วางเอาไว้ได้ ผู้เสียหายจึงเข้าไปนั่งพูดคุยเรื่องเงินที่จะนำมามอบให้กับนายวิชญุตม์ฯ ต่อหน้านายจีระศักดิ์ฯ ปลัดอาวุโส และนางอุไรวรรณฯ พร้อมกับนำเงินที่จัดเตรียมไว้นำออกมาวางไว้กลางโต๊ะห้องรับแขกภายในห้องปลัดอาวุโส
จากนั้นนางอุไรวรรณฯ จะหยิบเอาเงินบนโต๊ะไป และในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นผู้เสียหายได้โทรศัพท์ถึงนางอุไรวรรณฯ สอบถามเรื่องเงินที่มอบให้ โดยได้รับการยืนยันว่าส่งมอบเงินให้กับนายวิชญุตม์ฯ แล้ว ผู้เสียหายจึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับนายวิชญุตม์ฯ และนางอุไรวรรณฯ ตามกฎหมายจนหมายคดีจะถึงที่สุด
ซึ่งการกระทำนี้ ผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่อำเภอคลองเหนือ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย จนวันนี้ขณะที่ผู้เสียหายนำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปมอบให้แก่ผู้ต้องหาภายในห้องทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. จึงได้นำหมายจับเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา และดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด 10ม.ค.68 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า อธิบดีกรมการปกครอง ได้มีคำสั่งให้นายอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ มาช่วยราชการเป็นการประจำ ณ วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันนี้ (10 ม.ค. 68) เป็นต้นไป และผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปกครองที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ มาช่วยราชการ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดกระบี่
พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมการปกครองได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยเร่งรัดดำเนินการสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน และสำหรับในชั้นของพนักงานสอบสวน ข้าราชการทั้ง 2 รายดังกล่าว อยู่ระหว่างการถูกสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย