- 17 ม.ค. 2568
จับอดีตวิศวะปิโตรเลียมหัวใสวัย 51 ปี ผันตัวมาขายไอซ์ แฝงในซองถั่วเหลืองส่งขายให้ลูกค้า พยายามซุกซ่อนยาเสพติดให้ปะปนอยู่กับเม็ดถั่ว
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) จับกุม นายนภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี อดีตวิศวะปิโตรเลียม พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบรูดปิดดึงเปิด จำนวน 4 ถุง แต่ละถุงซุกซ่อนปะปนกับเม็ดถั่วภายในซองกระดาษสีน้ำตาล โดยถุงที่ 1 น้ำหนักรวมถุงประมาณ 1.04 กรัม, ถุงที่ 2น้ำหนักรวมถุงประมาณ 1.06 กรัม, ถุงที่ 3 น้ำหนักรวมถุงประมาณ 1.06 กรัม และถุงที่ 4 น้ำหนักรวมถุง ประมาณ 0.69 กรัม รวมมีไอซ์ทั้งหมดน้ำหนักรวมถุงประมาณ 4.71 กรัม สถานที่จับกุมในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านเกษตร-นวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
พร้อมมีของกลางเพิ่มเติมอีก คือ เครื่องชั่งจำนวน 2 เครื่องซองกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 30 ซองกล่องพัสดุสีน้ำตาล จำนวน 15 กล่องถุงพลาสติกแบบรูดปิดดึงเปิด จำนวน 1 แพ็ค เครื่องปริ้น จำนวน 1 เครื่อง กระดาษปริ้น จำนวน 9 ม้วน ซองกระดาษสีน้ำตาลภายในบรรจุเม็ดถั่ว จำนวน 50 ซอง
พฤติการณ์กล่าวคือ วันที่ 17 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 11.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลอาญาที่ ยค.20/2568 ลงวันที่ 16 มกราคม 2568 เข้าทำการตรวจค้น พบ นายนภัทร อายุ 51 ปี (ผู้ถูกจับกุม) แสดงตัวเป็นเจ้าบ้าน และเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดประเภทที่ 1 (ไอซ์) (ของกลางรายการที่ 1) ซุกซ่อนปะปนอยู่กับเม็ดถั่วภายในซองกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 4 ถุง โดยถุงที่1,2,3 อยู่ภายในกระเป๋าสีดำ(ของกลางลำดับที่ 10) วางบนโต้ะข้างหัวเตียง ถุงที่4 พบในตู้เสื้อผ้า และของกลางรายการอื่นๆ อยู่ภายในห้องนอนของนายนภัทรฯของบ้านเลขที่
ดังกล่าว
สอบถามนาย นภัทรฯ รับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยเตรียมไว้สำหรับส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าต่อ ซึ่งก่อนจะส่งให้กับลูกค้าจะซุกซ่อนยาเสพติดให้ปะปนอยู่กับเม็ดถั่ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า“มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน)โดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมทั้งแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับกุมทราบ
จากนั้นได้นำตัวผู้ถูกจับกุมมาจัดทำประวัติและบันทึกจับกุมที่ กก.สายตรวจ บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจปัสสาวะเบื้องต้นของผู้ถูกจับกุมด้วยชุดตรวจสอบปัสสาวะเบื้องต้นขององค์การเภสัชกรรม ผลการตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกาย จึงนำไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายอีกครั้งที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี โดยผู้ถูกจับกุมยินยอมและสมัครใจ
ผลการตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายตามรายงานผลการตรวจสารเสพติดในร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบอีกครั้งว่า “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิให้ทราบและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป