อ.เจษฎา เฉลยให้ เครื่องฟอกอากาศห้อยคอ ช่วยป้องกัน ฝุ่น PM2.5ได้ไหม

จากปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ โดยทางภาครัฐได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันในกรุงเทพมหานคร รถเมล์ - รถไฟฟ้าฟรี เพื่อให้ประชาชนลดใช้รถส่วนตัว ตั้งแต่วันที่ 25 -31 ม.ค. เพื่อเป็นหนึ่งในมาตรการลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่กำลังรุนแรงอยู่ในขณะนี้

 

 

สำหรับค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในวันที่ 25 ม.ค. เมื่อเวลา 07.00น. วัดได้ 55.5 - 96.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) มีแนวโน้มลดลงพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีแดง  มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐาน 75.1 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป ) จำนวน 23 พื้นที่

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน หลายคนอาจกำลังมองว่าตัวช่วยหรือทางแก้ป้องกันฝุ่นเบื้องต้น บางส่วนสวมหน้าอนามัย บางส่วนงดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนพนักงานออฟฟิศก็แก้ไขโดยการทำงานจากที่บ้าน (Work from home) ทั้งนี้ บุคคลที่มีความจำเป็นต้องออกมาในที่สาธารณะก็หาอุปกรณ์ป้องกันส่วนตัว เช่น เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาห้อยคอ โดยหลายคนสงสัยว่าสามารถใช้ป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 ได้จริงหรือไม่

 

 

ล่าสุด อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาเฉลยความจริงเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้ ระบุว่า เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาห้อยคอไม่ได้ผลจริง เป็นเพียงสินค้าที่ใช้หลอกขายเท่านั้น เจ้าตัวออกมาเตือนทุกปี แนะนำว่าสวมหน้ากากอนามัยช่วยได้ดีกว่า

อ.เจษฎ์ออกมาไขข้อสงสัย ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Jessada Denduangboripant ระบุว่า

“Q : สวัสดีค่ะอาจารย์ รบกวนสอบถามค่ะ “เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา ที่ห้อยคอติดตัว” 
ใช้งานได้ผลจริงไหมคะ พอดีอยากให้ลูกใช้ไปโรงเรียนค่ะ

A : ไม่ได้ผลจริงครับ หลอกขายครับ เตือนทุกปี .. ฝึกลูกหลานใส่หน้ากากเอาไว้ให้ชิน ดีกว่าครับ (และผู้ปกครองระดมทุนกัน ซื้อเครื่องฟอกอากาศ ติดห้องเรียนก็ได้)”

 

 

ในกรณีที่ผู้ปกครองที่อยากหาอุปกรณ์ป้องกันให้ลูก ๆ อ.เจษฎ์แนะนำว่า ซื้อเครื่องฟอกอากาศมาติดห้องเรียนก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยได้